เมื่อวันที่ 19 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 นำโดยพ.ต.ท.กิติภูมิ ศรีแผ้ว สว.กก.5 บก.ป. ร.ต.อ.นนทกร  นันทะน้อย  รอง สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ป. ด.ต.วิชัยรัตน์  คชรัตน์  ด.ต.บรรจบ  งามดี ด.ต.ณัฎฐ์ธนัน  ม่วงยืนนาน ด.ต.สมพล  คงฆะ ด.ตงราชสิทธ  สำเริงราช ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ละแม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทท.2 กก.2 บก.ทท.3 ร.ต.อ.คณศร  บุญสิน  รอง สว.ส.ทท.2 กก.2 บก.ทท.3 ด.ต.ยุทธพงค์  เรืองดำ  ด.ต.สิงหา  นิรัญชอน ผบ.หมู่ฯ

ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายสามารถ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพรแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ที่ 4/2552 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งผู้ต้องหาว่ากะทำความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองและพาติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ตามสมควรแก่พฤติการณ์ 

คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า นายสามารถฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับฯหลังก่อเหตุในเขตพื้นที่อำเภอละแม จ.ชุมพร เมื่อปี 2552 และได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ หรือ 15 ปีก่อน กลับมาบ้านในพื้นที่ตำบลทุ่งคาวัด อ.ละแม จ.ชุมพร  จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 หน่วยประกอบด้วยตำรวจกองปราบฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละแม และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวนำหมายศาลพร้อมวางแผนบุกเข้าจับกุมตัวได้ในบ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 ตำบลทุ่งคาวัด อ.ละแม จ.ชุมพร ตอนเช้ามืดเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

หลังจากนั้นได้นำตัวไปยังสภ.ละแม เพื่อบันทึกการจับกุม สอบสวนเพิ่มเติมทราบอีกว่า หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปใช้ชีวิตอยู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้จนกระทั่งเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาพ่อนายสามารถ ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตลง นายสมารถจึงได้เดินทางกลับบ้านที่พื้นที่อำเภอละแม เพื่อร่วมงานศพผู้เป็นพ่อ เสร็จงานก็ยังอาศัยอยู่บ้านจนกระทั่งมาถูกตำรวจบุกจับกุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย