เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปีใหม่ 2568 รัฐบาลรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย” หลังปี 67 อุบัติเหตุคร่าชีวิต 284 ราย


22 ธ.ค. 2567, 13:21



ปีใหม่ 2568 รัฐบาลรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย” หลังปี 67 อุบัติเหตุคร่าชีวิต 284 ราย




วันที่ 22 ธันวาคม 2567 เวลา 08.30 น. นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568   ซึ่งจากสถิติตัวเลขความสูญเสียในช่วงเทศกาลปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง พบว่า 
-ปี ​2565 เกิดอุบัติเหตุ 2,707 ครั้ง บาดเจ็บ 2,672 คน เสียชีวิต 333 ราย 
-ปี 2566 เกิดอุบัติเหตุ 2,440 คน บาดเจ็บ 2,437 คน เสียชีวิต 317 ราย 
-ปี 2567 เกิดอุบัติเหตุ 2,288 ครั้ง บาดเจ็บ รวม 2,307 คน เสียชีวิต รวม 284 ราย 

สาเหตุสูงสุดได้แก่ ขับรถเร็ว 40.6%  ตัดหน้ากระชั้นชิด 23.31%  ดื่มแล้วขับ 14.29% ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 87.01%  ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 30-39 ปี 19.67%  

นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า รัฐบาลโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดแผนปฏิบัติงานเทศกาลปีใหม่ 2568 ช่วงคุมเข้ม 27 ธ.ค. 2567-2 ม.ค. 2568  บังคับใช้กฎหมาย เน้น 10 ข้อหา เน้นหนักเรื่องการดื่มแล้วขับ ซึ่งในปีใหม่ 2567 ที่ผ่านมา มีการจับกุมข้อหาเมาแล้วขับสูงถึง 20,917 ราย และทำการตรวจสอบประวัติผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเมาแล้วขับที่กระทำผิดซ้ำเป็นครั้งที่ 2 เพื่อส่งฟ้องต่อศาลให้ได้รับโทษสูงขึ้น 

สำหรับผู้กระทำความผิดที่เป็นเด็กและเยาวชน ได้ใช้มาตรการสืบสวนขยายผลไปยังร้านค้าที่จำหน่ายสุราโดยมีบัญชีร้านค้าเสี่ยงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และใช้มาตรการทางกฎหมายกับผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลย หรือสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนดื่มสุราตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง

ทั้งนี้ บทลงโทษดื่มแล้วขับหากทำผิดครั้งแรก มีอัตราโทษ จำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000 ถึง 20,000 บาท ทำผิดซ้ำข้อหา “เมาแล้วขับ” ภายใน 2 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000 ถึง 100,000 บาท ถูกพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือ ถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

“รัฐบาลมีความห่วงใยความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนตลอดการเดินทางช่วงเทศกาล ขอให้ทุกคนมีสติ ดื่มไม่ขับ กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย” นางสาวศศิกานต์ ย้ำ





คำที่เกี่ยวข้อง : #รัฐบาลรณรงค์  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.