รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ติดตามสถานการณ์กรณีการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ ณ เรือนจำกลางคลองเปรม
8 มี.ค. 2568, 15:13

ในวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2568 พันตำรวจเอก ทวีสอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม เดินทางติดตามสถานการณ์กรณีพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ถูกพบเสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายเผด็จ หริ่งรอด ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำคลองเปรม ร่วมด้วย
โดย พันตำรวจเอก ทวีสอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงยุติธรรมพร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ขอแสดงความเสียใจ ต่อครอบครัวของผู้กำกับโจ้ การตรวจสอบวันนี้มีหน่วยงานจาก 4 ฝ่าย ประกอบด้วย อัยการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พนักงานสอบสวนและครอบครัวของผู้กำกับโจ้ ทั้งมารดาพี่สาวและภรรยาได้ร่วมเข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุและชันสูตรศพในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมยืนยันจะให้เป็นความเป็นธรรม ทุกอย่าง จึงอยากให้ทุกคนมั่นใจในการตรวจสอบ ในส่วนเรื่องการวินิจฉัยจะให้แพทย์เป็นผู้ดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ซึ่งในกรณีนี้ทางครอบครัวมีความประสงค์ จะนำไปชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และในวันนี้ได้มีกองพิสูจน์หลักฐานมาร่วมด้วย
ด้านนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในส่วนการตรวจสอบในวันนี้จะเห็นได้ว่ามีหน่วยงานที่เป็นกลางเข้ามาในที่เกิดเหตุ ทั้งทางอัยการ พนักงานฝ่ายปกครอง กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เข้ามาร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และจะตั้งคณะกรรมการในส่วนของเรือนจำและกรมราชทัณฑ์ เพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกมิติโดยเร็วที่สุด และในส่วนของญาติผู้เสียชีวิตที่มีความต้องการจะให้ความเป็นธรรมและให้ความสะดวกอย่างที่สุด
นอกจากนี้ พันตำรวจเอก ทวีสอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้จะมีการให้ดำเนินการเร่งชันสูตรโดยเร็ว เนื่องจากสาเหตุการตายที่ถูกระบุไว้เป็นการตายผิดธรรมชาติ ซึ่งรวมถึงการเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย หรือกรณีถูกสัตว์ทำร้ายตาย หรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุและผู้อื่นทำให้ตาย รวมถึงการตายระหว่างถูกควบคุมที่จะต้องให้ศาลมีการทำสำนวนการชันสูตรพลิกศพ และศาลเป็นผู้ชี้
ในด้านนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขังอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาพยายามหามาตรการในการป้องกันอย่างเข้มงวดกวดขัน ในประเด็นของผู้กำกับโจ้กรมราชทัณฑ์รู้สึกเสียใจ และจะให้ความเป็นธรรมตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้กล่าวไว้ ในส่วนกรณีการเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ตลอดเวลาเพื่อที่จะดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่และดูแลเรื่องของความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งไม่มีผู้ใดเข้าไปห้องควบคุมของผู้กำกับโจ้ และในส่วนสิ่งของต้องห้ามสิ่งที่นำไปสู่การก่อเหตุ ทางกรมราชทัณฑ์มีความเข้มงวดอยู่แล้ว แต่เรื่องของผ้าที่ใช้ก่อเหตุจะเป็นผ้าที่ใช้ซับเหงื่อช่วงหน้าร้อน ในส่วนของการดูแลมีการรักษาและให้ยาตลอดเวลา ด้านกรณีการอยู่คนเดียวของผู้กำกับโจ้เป็นความประสงค์ และผู้กำกับโจ้สบายใจที่ไม่ต้องปะปนกับผู้อื่น ด้านการควบคุมดูแลมีเจ้าหน้าที่เวรดูแลตลอดเวลา ซึ่งช่วงเกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปให้ยามีการเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับ และนิ่งเงียบ เจ้าหน้าที่จึงเร่งเข้าไปตรวจสอบทันที
ขณะที่ นายเผด็จ หริ่งรอด ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำคลองเปรม กล่าวว่า อดีตผู้กำกับโจ้มีการทำเรื่องขอไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อจะแยกขังเดี่ยวมาเป็นเวลา 2 เดือน ในส่วนนี้เป็นสิทธิของญาติที่สามารถไปแจ้งความได้ ซึ่งส่วนนี้ต้องรอทางพนักงานสอบสวนพิสูจน์