เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ข้อมูลเท็จ..อย่าเชื่อนายทุนขาย ”บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน” ที่โฆษณาว่าดีกว่าบุหรี่ทั่วไป


22 มี.ค. 2568, 16:08



ข้อมูลเท็จ..อย่าเชื่อนายทุนขาย ”บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน” ที่โฆษณาว่าดีกว่าบุหรี่ทั่วไป




ข้อมูลเท็จ..อย่าเชื่อนายทุนขาย ”บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน” ที่โฆษณาว่าดีกว่าบุหรี่ทั่วไป
ย้ำความจริงเพิ่มความเสี่ยงป่วย NCDs หนักกว่าถึง 2 เท่าชี้คนไทยป่วยกว่า14 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 3แสนคนต่อปี

วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น. นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป มีความเข้าใจผิดต่อบุหรี่ไฟฟ้า ว่ามีความปลอดภัยมากกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่ในความเป็นจริง บุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดเต็มไปด้วยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยหนึ่งในประเภทของบุหรี่ไฟฟ้าที่อันตรายมาก คือ บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน (Heated Tobacco Products: HTPs) ซึ่งมักถูกเข้าใจผิดว่า ปลอดภัยกว่าบุหรี่ซิกาแรต เพราะไม่มีการเผาไหม้ แต่มีความเสี่ยงป่วย NCDs เพิ่มถึง 2 เท่า ซึ่งจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่า ตลอดช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมากลุ่มโรค NCDs เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย โดยมีคนไทยป่วยด้วยโรค NCDs ถึง 14 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 300,000 คนต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปี 

นายอนุกูล กล่าวว่า ปัจจุบันมีงานวิจัยจำนวนมากที่ยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อาทิ การศึกษาของสถาบันชีวการแพทย์และการแพทย์ สาธารณรัฐเกาหลี ร่วมกับมหาวิทยาลัยโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพิ่มความเสี่ยงถึง 2 เท่า ทำให้เกิดภาวะ อ้วนลงพุง ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง และไขมันในเลือดสูง และเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในอนาคต  ซึ่งผลงานวิจัยที่สำคัญสรุปได้ว่า สำหรับผู้สูบบุหรี่ HTPs ในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ใด ๆ เลย จะเสี่ยงเกิดโรค NCDs เพิ่มขึ้น 68%  และส่วนของกลุ่มผู้สูบบุหรี่ HTPs ที่สูบบุหรี่ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป จะเสี่ยงเกิดโรค NCDs เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือเพิ่มขึ้น 33% ทั้งนี้ ในกลุ่มผู้สูบบุหรี่ HTPs ที่สูบมากกว่า 16 ครั้งต่อวัน จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs สูงกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดา

"บุหรี่ไฟฟ้า" นอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างเลวร้ายแล้ว ยังมีโทษตามกฎหมาย ทั้งผู้ค้า ผู้ครอบครอง และผู้สูบ ดังนี้ 1. ผู้ขายหรือผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า มีความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ริบบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใด ๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้านั้นด้วย นอกจากนี้ ยังถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3.ผู้ครอบครองหรือรับฝากไว้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และ 4.สูบในที่สาธารณะ หากสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มี "นิโคติน" เป็นส่วนประกอบ "ในเขตปลอดบุหรี่" ถือเป็นความผิดตามมาตรา 42 ของ พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท (บัญญัติไว้ในมาตรา 67)





คำที่เกี่ยวข้อง : #ภาครัฐ  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.