ราคายางตกต่อเนื่อง "ชาวตรัง" ยอมขายสวนทิ้ง เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว
3 พ.ย. 2562, 14:07
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสมพงษ์ สีทอง เกษตรกรชาวสวนยางพารา ในพื้นที่ตำบลควนเมา อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ได้นำผู้สื่อข่าวตรวจสอบสวนยางเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่เศษ ที่ปล่อยทิ้งรกร้างมายาวนาน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา สาเหตุเนื่องจากราคายางตกต่ำต่อเนื่องยาวนาน ไม่คุ้มการกรีด เพราะเหลือแค่กิโลกรัมละ 30-31 บาท หรือต่ำกว่า 3 กิโล 100 บาท จึงขอหยุดพักการทำสวนยางไว้ชั่วคราวก่อน ซึ่งสถานการณ์ที่ย่ำแย่ในเวลานี้ทำให้เกษตรกรต่างเดือดร้อนกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะชาวสวนยางที่ไม่มีอาชีพเสริม และมีเพียงสวนยางอย่างเดียว ไม่ว่าราคาจะถูกแพงอย่างไร ก็จำเป็นต้องกรีด เพราะค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสูง และลูกยังเรียนหนังสือ ขนาดปุ๋ยซึ่งปกติจะใส่ต้นยางปีละ 2 ครั้ง แต่ในปีนี้ยังไม่ได้ใส่เลย เนื่องจากเกษตรกรต่างไม่มีเงิน
นอกจากนั้น พบว่ามีเกษตรกรหลายรายในจังหวัดตรัง ต้องยอมโค่นต้นยางพาราขายทิ้ง เพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว หรือบางรายที่มีหลายไร่ ก็ทยอยโค่นขายไม้ยางไป เพื่อช่วยพยุงครอบครัว ซึ่งหากยางมีราคากิโลกรัมละ 50-60 บาท เกษตรกรก็คงอยู่ได้ แต่ในความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น ยิ่งขณะนี้ในภาคใต้ยังเป็นฤดูฝน และมีฝนตกแทบทุกวัน จึงทำให้ไม่มีรายได้ เพราะกรีดยางไม่ได้เลย แถมยังราคาตกต่ำอีก จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือด้วยการประกันราคายางพาราตามที่ได้แถลงนโยบายเอาไว้คือ กิโลกรัมละ 50-60 บาท เนื่องจากเกษตรกรกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จนหลายรายต้องยอมขึ้นป้ายประกาศขายสวนทิ้ง
ส่วนกรณีที่รัฐบาลประกาศมาตรการประกันรายได้ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา จำนวน 25 ไร่ต่อรายนั้น นายสมพงษ์ สีทอง กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วย เนื่องจากเท่ากับเป็นการเหมาจ่ายคือ การจ่ายขาดไปครั้งเดียว แต่อยากให้รัฐบาลใช้วิธีประกันราคายางทุกกิโลกรัมๆ ละ 50 หรือ 60 บาทมากกว่า อีกทั้งยังเป็นราคาที่เกษตรกรสามารถลืมตาอ้าปากได้ในการดำรงชีพแต่ละวัน ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าหากรัฐบาลไม่ทำตามที่เคยหาเสียงเอาไว้ จะต้องเกิดการชุมนุมของชาวสวนยางในภาคใต้อย่างแน่นอน และตอนนี้สมัชชาชาวสวนยางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็เริ่มรวมตัวกันเพื่อเตรียมประท้วงรัฐบาลแล้ว เนื่องจากทำงานผ่านเข้ามาครึ่งปีก็ยังไม่เห็นผลงานเลย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาราคายางและราคาปาล์มที่เป็นรูปธรรม