เจนสุดา ปานโต เปิดใจ ในรายการตีท้ายครัว คนมองเป็นไฮโซเรียนอินเตอร์ก่อนมาเป็นดารา สาวเจน เผยว่า โฮโซที่ไหน ไม่เลย เราเป็นครอบครัวชนชั้นกลาง เรียนโรงเรียนไทย หอวัง นนฯ แล้วก็ไปต่อ ม.กรุงเทพ ถ่ายละครเรื่องแรกได้เงินก้อนแรกไปซื้อรถมือสอง นั่งรถเมล์ คนมองมาก จนเกร็งมาก ทำตัวไม่ถูก อาจเพราะเป็นวีเจ เพื่อนๆที่ไปแฮงเอาท์ด้วยก็มีโปรไฟล์ เหมารวมเรา โดนที่ไม่เคยมาถามเรา อยู่กับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตลอด สองคนแม่ลูก พ่อเป็นอเมริกัน เลิกกับแม่ตั้งแต่ยังไม่คลอดเจน เคยตามหาพ่อ ช่วงวัยรุ่น เราคิดว่าเราน่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่านี้ ชีวิตเราน่าจะดีกว่านี้ เราโดนล้อฝรั่งขี้นกตลอด พอตอนอายุ 13 วัยโหยหาความรัก เราติดต่อไปทางกลาโหมอเมริกา แผนกตามหาคน

พร้อมทั้งแนบรูปถ่ายพ่อแม่ และรูปเรากับแม่ ร่างเขียนจดหมายไปตามหา แม่ไม่ได้ช่วยตามหา แม่พยายามลืมทุกอย่างเกี่ยวกับพ่อ แต่เราไปเจอจดหมายพ่อส่งมาหาแม่แล้วเขาเก็บไว้ ว่าอยากเจอเรา จากนั้นรอหลายเดือน มีจดหมายมา ดูแล้วไม่มีอะไรต่อ แม่ก็ขอให้หยุด แม่เลี้ยงเรามาคนเดียว เมื่อลิขิตมาแบบนี้ ก็เลยหยุดไม่ตามหาพ่อแล้ว ชีวิตเคยผ่านช่วงไม่มีเงิน เจน เผยว่า พอเริ่มทำงานก็บอกแม่ให้หยุดทำงาน ตอนนั้นเราออกเทป แต่แม่มาป่วยเป็นมะเร็ง เราเหลือเงิน 80 บาท จะทำยังไง ตอนนั้นก็ยังไม่ดัง พอดีได้งานโฆษณาได้เงิน 5 แสน เอาไปรักษาแม่ ตอนนี้หายแล้ว แต่ต้องดูแลไม่ให้เป็นอีก

ขณะที่ คุณแม่ของสาวเจนสุดา เปิดใจครั้งแรก พร้อมปล่อยโฮ เล่าถึงวันที่เป็นมะเร็ง วันเขาออกอัลบั้มวันแรก แม่มีเลือดไหล แม่ต้องผ่าตัด เราไม่มีเงิน แม่เสียใจนะ ลูกอายุยังไม่20 ต้องหาเงินแสนมาดูแลแม่ ซึ่งไม่ใช่ คนเป็นแม่ต้องดูแลลูก ถ้าลูกจบแล้ว มีงานทำแล้ว แม่จะไม่ว่า แต่นี่ลูกอายุ 16-17 เอง ลูกก็โทรหาแม่ตลอดเวลา วันละ 20-30 รอบ แม่ทำใจดีๆ แม่มีหนู แม่ไม่ต้องกลัว อะไรแบบนี้

“ขอบใจที่เลี้ยงแม่อย่างดี ขอบใจ เจนเก่ง มีเลือดนักสู้ ที่แม่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ แม่ซาบซึ้งมาก เจน แต่ไม่เคยชม กลัวลูกแม่เหลิง กลัวเสียลูกไป แม่กลัวที่สุด ขอบคุณสวรรค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ส่งเขามา ไม่เคยทิ้งแม่เลย แม่ไม่อยากให้สัมภาษณ์แม่ร้องไห้บ่อย แม่ไม่อยากให้เขาเห็นแม่ร้องไห้ กลัวไปบั่นทอนเขา เจนให้เงินแม่ตลอด แม่จะใช้เท่าที่จำเป็นจริงๆ แล้วแม่ก็จะเก็บเงินที่เขาให้ เอาไปให้เขา” ด้าน เจน เผยว่า ตอนนั้นเราอายุ 16-17 พูดย้อนไปไม่อยากให้เศร้า อยากให้เปลี่ยนเป็นพลัง ผ่านไปให้ได้ เรื่องราวตอนนั้น ทำให้เราเชื่อว่าเราต้องไปข้างหน้า สู้จนกว่าจะดี จากที่ให้เงินแม่ แล้วแม่เก็บเงินมาให้ล้านหนึ่ง ก็เลยเอาให้ ควินท์ ลูกชาย ก็อยากจะเลี้ยงลูกให้รู้จักความลำบาก ให้เขาใช้ชีวิตเป็น ไม่ใช่ฉลาดแต่เรื่องความรู้ เพราะเขาเกิดมาในวันที่เราค่อนข้างสบายแล้ว