แม่เข้าฝัน "ลูกสาว" ตลอด 2 ปี ออกตามหาไม่เจอ สุดท้ายโป๊ะแตก!! พ่อฝังร่างกลบดินใต้ต้นกระถิน ซ้ำ!! ข่มขู่น้องชายให้ปิดปากเงียบ
5 พ.ย. 2562, 20:25
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 พ.ย. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ตลาดเอกชนแห่งหนึ่ง ถ.เขาเงิน เขตเทศบาลเมืองหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พ.ต.ท.มงคล เพชรนิล สว.สส.สภ.หลังสวน อ.หลังสวน นำตัว นายสมบูรณ์ สุขมนตรี อายุ 52 ปี ไปชี้จุดที่ฝังศพ
นางบุปผา อำไพ อายุ 58 ปี อดีตภรรยา ที่พื้นที่ตลาดเอกชนแห่งนั้น หลังจาก นางอำพร อำไพ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 13 ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี อาชีพค้าขาย และ นายสมหมาย สุขมนตรี อายุ 17 ปี ลูกของ นายสมบูรณ์ และ นางบุปผา เข้าแจ้งความในช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าแม่หายไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว สงสัยว่าถูกพ่อฝังศพไว้ใต้ดินในพื้นที่ตลาดแห่งนี้
นางอำพร อำไพ และ นายสมหมาย สุขมนตรี ให้การกับตำรวจว่า “เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในขณะที่ นายสมหมาย อาศัยอยู่กับพ่อและแม่ พ่อมีอาชีพค้าขายและทำสวนปาล์ม ส่วนแม่เป็นแม่บ้านแต่ชอบดื่มเหล้าเป็นประจำและมักมีอาการเป็นลมล้มพับอยู่เสมอ เนื่องจากไม่ค่อยกินอาหาร ในช่วงค่ำของคืนหนึ่งในขณะที่นายสมหมาย นอนอยู่ในบ้านตื่นขึ้นมามองออกไปนอกบ้านพบว่า พ่อกำลังลากร่างของแม่ซึ่งมีเลือดตามร่างกายฝังลงไปในหลุมใต้ต้นกระถินด้านหน้าบ้าน เมื่อ นายสมบูรณ์ หันมาเห็น นายสมหมาย กำลังมองดูเหตุการณ์ จึงข่มขู่ว่าให้เงียบไว้ห้ามบอกใครไม่งั้นจะฆ่าฝังลงในหลุมเดียวกับแม่ ด้วยความหวาดกลัวจึงปิดปากเงียบไว้ และย้ายไปอาศัยอยู่กับ นางอำพร พี่สาวในพื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฏร์ธานี เมื่อพี่สาวถามถึงแม่ก็ให้ไปถามพ่อ ก็จะได้รับคำบ่ายเบี่ยงว่านางบุปผา ไปอาศัยกับญาติพี่น้องที่พื้นที่อื่นๆ ตลอดเวลา เมื่อ นางอำพร ไปติดตามหาที่บ้านญาติพี่น้องก็ไม่พบ นางบุปผา ผู้เป็นแม่แต่ประการใด แต่ นางอำพร ก็ไม่ย้อท้อเมื่อว่างงานพร้อมด้วยสามีก็จะออกติดตามหา นางบุปผา อยู่เสมอ เนื่องจากคิดว่า นางบุปผา อาจจะเมาแล้วหลงทางไปอาศัยที่ไหนสักแห่ง ใน จ.ชุมพร แต่ก็ไม่เคยเจอ ในขณะที่อีกใจก็คิดว่า นางบุปผา อาจจะตายไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงตาย อีกทั้งในช่วงเวลา 2 ปี แม่มาเข้าฝัน นางอำพร ว่าหนาว อยากได้ผ้าห่ม อยู่หลายครั้ง จึงมั่นใจว่าแม่ตายแล้ว และเมื่อสอบถาม นายสมหมาย น้องชายก็มักมีพิรุธเสมอ
จนเมื่อวันที่ 3 พ.ย.62 ได้สอบถามคาดคั้น นายสมหมาย อีกครั้ง พร้อมทั้งเล่าความฝันที่แม่มาบอกให้น้องชายฟัง นายสมหมาย จึงยอมรับว่าเห็น นายสมบูรณ์ ผู้เป็นพ่อฝังศพ นางบุปผา ไว้ใต้ต้นไม้ริมป่าละเมาะหน้าบ้านเช่าในสมัยนั้น พร้อมทั้งข่มขู่ นายสมหมาย ลูกชายไม่ให้บอกใคร และพากันไปแจ้งความต่อตำรวจ ตำรวจได้ออกสืบสวนหาข่าวทันทีพบว่า นายสมบูรณ์ ยังคงพักอาศัยที่บ้านไม่มีเลขที่ใกล้ที่เกิดเหตุจึงได้ไปนำตัว นายสมบูรณ์ ในขณะที่ยังอยู่ที่บ้าน สอบปากคำอยู่นานหลายชั่วโมง จนรับสารภาพว่า ได้ฝังศพของ นางบุปผา จริงเนื่องจาก นางบุปผา มีอาการเป็นลมและเสียชีวิตทันที ด้วยความตกใจไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจฝังร่างของ นางบุปผา ไว้ใกล้กับบ้านที่พักอาศัย ต่อมาได้ย้ายออกไปอยู่บ้านอีกหลังไม่ไกลจากบ้านหลังเดิม และทำมาหากินมาตลอด 2 ปี ตำรวจได้พาตัวไปชี้จุดที่ฝังศพ แต่เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุถูกสร้างเป็นตลาดแล้ว จึงจำจุดที่แน่นอนไม่ได้ จำได้ว่าเป็นจุดที่สร้างห้องน้ำของตลาดในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การของ นายสมบูรณ์ จะได้สอบปากคำให้ชัดเจนก่อนจะดำเนินการขุดเพื่อหาศพต่อไป
ในขณะที่ ชาวบ้านในย่านดังกล่าว ซึ่งเคยถาม นายสมบูรณ์ หลายครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านว่า นายบุปผา หายไปไหน อาทิ นายธงชัย วันอังคาร อายุ 54 ปี อาชีพรับจ้าง เล่าว่า "เคยมีผู้ที่ทำโทรศัพท์หายและให้บริษัทเจ้าของเครือข่ายทำการวัดหาสัญญาณ โทรศัพท์มือถือ พบว่าสัญญาณอยู่ในจุดใต้ต้นกะถิน เมื่อเข้าไปพบว่า มีร่อยรอยการขุดและฝังกลบ พร้อมทั้งมีกลิ่นเหม็นออกมา เมื่อเดินข้ามหลุมในจุดนั้นรู้สึกขนลุกซู่ ทำให้รู้สึกกลัว แต่ไม่ได้คิดว่าจะมีศพถูกฝังไว้ จนกระทั่งจุดดังกล่าวและต้นกะถินถูกรื้อสร้างเป็นห้องน้ำของตลาด แต่เคยสอบถาม นายสมบูรณ์ ถึง นางบุปผา ผู้เป็นภรรยามักจะได้รับคำตอบว่าย้ายไปอยู่กับญาติพี่น้องแล้ว ก็ไม่ได้สนใจอะไร จนตำรวจมาสอบถามในวันนี้”