เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รวบ "หนุ่มวัย 31" ออกตระเวนวิ่งราวทรัพย์คนไทย-ต่างชาติ กลางเมืองอุดร


6 พ.ย. 2562, 16:46



รวบ "หนุ่มวัย 31" ออกตระเวนวิ่งราวทรัพย์คนไทย-ต่างชาติ กลางเมืองอุดร




วันนี้ ( 6 พ.ย.62 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ตร.ภูธร จ.อุดรธานี, พ.ต.อ.วิธ มุกสินธุ์ ผกก.สส.ภูธร จ.อุดรธานี, พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี, พ.ต.ต.สมเจตน์ ธรรมบุตร สว.ส.ทท.5 กก.1 บก.ทท.2 จ.อุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตร.ชุดสืบสวนภูธร จ.อุดรธานี แถลงข่าวร่วมกันจับกุม นายชัยรัตน์ ปาระคะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 ถนนไอทียู ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมด้วยของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีขาว-ดำ หมายเลขทะเบียน 1กอ 9291 อุดรธานี, รองเท้าแตะแบบคีบ 1 คู่, รองเท้าแตะแบบสวม สีน้ำเงินแถบสีขาว 1 คู่, เสื้อยืดแขนยาวีแดง 1 ตัว, กางเกงยีนสีน้ำเงิน 1 ตัว, เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทา-ดำ 1 ตัว, เสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีเทา-ดำ 1 ตัว แว่นตากันแดด, ถุงมือก่อสร้างสีขาวฝามือสีส้ม 1 คู่, หมวกกันน็อคสีขาวแถบแดง 1 อัน นอกจากนี้ยังมีของกลางที่เป็นทรัพย์สินที่ นายชัยรัตน์ ไปวิ่งราวทรัพย์ อาทิเช่น พระเครื่อง 9 องค์, กระเป๋าสตางค์ 4 ใบ, โทรศัพท์มือถือไอโฟนรุ่น 6S 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO สีขาว 1 เครื่อง และกระเป๋าสะพายแบบหญิง ตร.ได้แจ้งข้อหา “วิ่งราวทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย"

 

 



พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ตร.ภูธร จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า คนร้ายรายนี้เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง ก่อเหตุทั้งเหยื่อเป็นคนไทยและชาวต่างชาติ อย่างเช่นวันที่ 5 ต.ค.62 คนร้ายรายนี้ สวมหมวกกันน็อกสีขาว เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ก่อเหตุวิ่งราวกระเป๋าคาดเอวของชาวต่างชาติ ขณะนั่งดื่มกาแฟอยู่หน้าร้านอาหาร SMILIG FROG ข้างในกระเป๋ามีเงินสด 10,000 บาท บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม และใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่เกิดเหตุ พบ MR.BORD GROENLI (โบท เกรินลี่) อายุ 49 ปี กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้

แต่คนร้ายก็ย่ามใจ วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ของชาวบ้านหลังจากกลับมาจากซื้อของในห้างฯ ได้เงินสดไป 30,000 บาท ผ่านมาเกือบ 1 เดือน ตร. ก็ยังตามจับคนร้ายไม่ได้สักทีจนในที่สุดก็ตามจับได้ โดยคนร้ายรายนี้ทุกครั้งที่ก่อเหตุสวมเสื้อผ้าชุดเดิมๆ ทุกครั้งคือสวมหมวกกันน็อคสีขาว เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงนำมาซึ่งการจับกุมได้เพราะ ตร.ท่องเที่ยวไปเจอคนร้ายจอดอยู่สามแยกไฟแดงด้านหลัง สภ.เมืองอุดรธานี และสะกดรอยตามไปจับได้ที่ห้องเช่าด้านหลังตลาดโบ๊เบ๊ โดย นายชัยรัตน์ ให้การรับสารภาพว่าหลังตกงานก็ไม่มีเงินใช้จึงก่อเหตุดังกล่าว เงินที่ได้ก็เอาไปซื้อยาบ้ามาเสพและใช้จ่ายในแต่ละวันและจากการตรวจสอบประวัติเคยติดคุกคดีลักทรัพย์มาแล้ว

 

 


ขณะที่ ส.ต.อ.กฤตธน บุญผ่องศรี ผบ.หมู่ ส.ทท.5 กก.1 บก.ทท.2 ซึ่งเป็นพลขับของรถสายตรวจตำรวจท่องเที่ยวตาไว เจอคนร้ายจอดรถติดไฟแดงอยู่ข้างหน้าและสะกดรอยตามจับได้ เผยที่มาที่ไปของการจับคนร้ายรายนี้ว่า วันที่ 4 พ.ย.62 ที่ผ่านมา เวลาประมาณบ่ายสอง ตนเองซึ่งเป็นพลขับรถสายตรวจ ตร.ท่องเที่ยวอุดรธานี ออกตระเวนสืบหาคนร้ายรายนี้เนื่องจากก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ชาวต่างชาติ หลังจากปฏิบัติการออกสืบหาข่าวคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ชาวต่างชาติตลอดทั้งวันก็ยังไร้แวว แต่ดูเหมือนโชคช่วยหรือความบังเอิญก็ไม่ทราบขณะที่ตนเองและคู่บัดดี้ขับรถสายตรวจกำลังกลับเข้าสถานีฯ พอขับมาจอดอยู่ตรงสามแยกไฟแดงถนนโพศรี ด้านหลังสภ.เมืองอุดรธานี ก็ปรากฏว่าเหลือบไปเห็นรถจยย. คันที่จอดติดไฟแดงอยู่ข้างหน้า เมื่อมองชัดๆ คนขับจยย. ติดไฟแดงเหมือนคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ชาวต่างชาติ จึงหยิบโทรศัพท์เปิดดูภาพจากลักษณะคนร้ายทั้งเสื้อผ้าที่สวมใส่ หมวกกันน็อค ถุงมือที่สวมใส่และ รถจยย.ที่ก่อเหตุ  เมื่อมั่นใจว่าใช่แล้วจึงค่อยๆ ขับตามไป แต่ขับไปห่างๆ จนในที่สุดคลาดเคลื่อนกัน ต่อมาจึงได้ไปขอความร่วมมือขอดูกล้องวงจรปิดของสำนักงานเทศบาลนครอุดรธานีจึงรู้เส้นทางหลบหนีคนร้าย และได้ประสาน ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และ ตร.ชุดสืบสวนภูธร จ.อุดรธานีติดตามจับกุมคนร้ายได้ในห้องเช่าด้านหลังตลาดโบ๊เบ๊ดังกล่าว

 

สงสัยว่าทำไมคนร้ายจึงสวมเสื้อผ้าชุดเดียวกัน ทั้งเสื้อ กางเกง หมวกกันน็อคและถุงมือในการก่อเหตุแต่ละครั้ง เหมือนชะล่าใจหรือไม่มีชุดสวมใส่ แต่ก็ยังดีที่ ตร.ตาไวตามจับไว้ได้ ความบังเอิญไม่มีอยู่จริง


 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.