จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวว่า ตนมีอาการปวดท้องอย่างหนักหลังตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือน จากนั้นก็มีเลือดไหลออกจากช่องคลอด มีน้ำเดิน มีอาการแท้งคุกคาม จึงตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลย่านปากน้ำ จ.สมุทรปราการ แต่ทางโรงพยาบาลไล่ให้ย้ายไปรักษาโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม เพราะหากรักษาที่นี่ก็จะเสียเงินเยอะมาก จึงไม่ยอมรักษาให้ แต่ให้นอนรอ จนสุดท้ายต้องเสียลูกไป พร้อมความรู้สึกสงสัยว่าทำไมโรงพยาบาลไม่รักษานั้น

          ล่าสุด 6 พฤศจิกายน 2562 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นพ.ปฏิวัติ วงศ์งาม รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ 2 โรงพยาบาลเมืองสมุทรปราการ แถลงข่าวชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางโรงพยาบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และไม่ได้ผลักไสให้คนไข้ไปรักษาตามโรงพยาบาลที่มีสิทธิประกันตน ทุกรายดำเนินการตามขั้นตอน และผ่านการประเมินอาการแล้ว ซึ่งพบว่ามีภาวะเร่งด่วนฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่จึงตรวจร่างกาย อัลตราซาวด์ และทำเรื่องให้นอนที่โรงพยาบาล โดยไม่ได้ตรวจสอบสิทธิ์ ก่อนจะพบว่าคนไข้มีสิทธิ์อยู่ที่อีกโรงพยาบาลหนึ่ง จึงแนะนำให้ไปใช้สิทธิ์ที่โรงพยาบาลดังกล่าว

 

 

  ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า โรงพยาบาลไม่ได้ผลักไสคนไข้ และทางคนไข้ก็ได้ทำการตอบรับเจ้าหน้าที่ว่าเลือกจะย้ายโรงพยาบาล จึงเตรียมส่งต่อตัวไปอีกโรงพยาบาล พร้อมยกเลิกการแอดมิต โดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตรวจสอบกับคนไข้อีกครั้งก่อนการส่งตัวว่าคนไข้ได้ร้องขอการรักษาต่อ และยินดีที่จะจ่ายค่ารักษา ซึ่งเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ในการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน จึงทำให้คนไข้เข้าใจผิดและน้อยใจ โดยโรงพยาบาลก็ต้องขออภัยกับเรื่องดังกล่าว และได้ประสานพูดคุยกับคนไข้แล้ว เพื่อให้เกิดความเข้าใจ

          ส่วนกรณีที่คนไข้ติดใจโรงพยาบาล ว่าทำไมถึงไม่รักษาในเบื้องต้นก่อน ปล่อยให้เกิดเลือดไหลออกจากร่างกายจำนวนมากนั้น เนื่องจากขณะนั้นได้มีการประเมินของแพทย์แล้วว่า คนไข้ยังไม่เข้าขั้นวิกฤต และปวดท้องไม่มาก แต่หลังจากนั้นอาการแท้งได้คุกคามอย่างรวดเร็ว และปวดท้องหนักจนแท้งเด็ก