บริษัทต้นสังกัด ไม่รู้เรื่องที่ "ประจักษ์" ไปจับกระทงที่โคราช
8 พ.ย. 2562, 13:20
จากกรณี นายประจักษ์ โพธิผล ตัวแทนลิขสิทธิ์บริษัทการ์ตูนแห่งหนึ่ง ชี้แจงต่อสื่อมวลชนหลังตกเป็นจำเลยสังคม หลังแจ้งความที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อเอาผิดกับเด็กสาววัย 15 ปี ก่อนนัดหมายเพื่อซื้อกระทงลายการ์ตูนละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งมีโทษปรับ 50,000 บาท แต่ภายหลังได้เจรจากับครอบครัวเด็กและต่อรองเหลือ 5,000 บาท กระทั่งบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่าไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ตามที่ถูกกล่าวอ้างโดยนายประจักรษ์ กล่าวว่า ภายหลังบริษัท TAC ออกแถลงการณ์ว่าไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดเข้าจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์นั้น เนื่องจากบริษัทดังกล่าวเป็นฝ่ายดูแลการจัดจำหน่าย ส่วนบริษัท เวอริเซ็ค จำกัดที่ตนเป็นพนักงานนั้น เป็นฝ่ายปราบปรามโดยตรงที่ได้รับมอบอำนาจจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตนได้รับมอบหมายให้ดำเนินการด้านลิขสิทธิ์
ส่วนเรื่องการรับเงิน 50,000 บาทนั้น คาดว่าเป็นความเข้าใจผิดทางแง่กฎหมาย ที่ระบุใน พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ม.31 ว่าผู้กระทำผิดต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 50,000-400,000 บาท กรณีของเด็กคือการทำซ้ำและดัดแปลงลวดลายตัวการ์ตูน ซึ่งตรมีหลักฐานว่าน้องได้ลงขายมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาจากนั้น เมื่อตำรวจเชิญตัวเด็กมาโรงพักเพื่อเจราจาไกล่เกลี่ยความเสียหายแล้ว ตนในฐานะผู้รับมอบอำนาจมีสิทธิ์ในการตัดสินใจทางคดี และเห็นแก่เด็กจึงถอนแจ้งความ ส่วนเงิน 5,000 บาท ก็ถือเป็นค่าเสียหายที่ต้องส่งให้กับบริษัทตามสิทธิ์ ซึ่งตนก็มีรางวัลนำจับมูลค่าต่ำกว่า 50 เปอร์เซนต์ ยืนยันว่า ดำเนินการทางกฎหมายทั้งกับรายใหญ่หรือรายย่อย อย่างไรก็ตาม ตนไม่ใช่คนที่สั่งจองกระทงกับเด็กเพื่อให้มาถูกจับกุมและไม่มีใครมาเค้นสอบในห้องมืดตามที่เป็นข่าว ซึ่งห้องที่สอบสวนเป็นห้องประชุม และวันนั้นไม่ได้เปิดแอร์จึงออกมาตามบันไดข้างนอกห้อง ยืนยันว่าไม่มีใครบังคับให้เซ็นต์ยอมรับความผิด ส่วนรายละเอียดทางคดีตนไม่ขอเปิดเผย ทั้งนี้ หากทางครอบครัวหรือบุคคลใดจะแจ้งความกลับเนื่องจากมองว่าพวกตนเป็นแก๊งตกทรัพย์ก็ยินดี เพราะตนบริสุทธิ์ใจและมีหลักฐาน รวมถึงหนังสือมอบอำนาจที่ไม่สามารถขายให้กันได้
ล่าสุดเพจ หมายจับกับบรรจง โพสต์ข้อความระบุว่า สรุปแล้วทางบริษัทเวอริเซ็คไม่รู้เรื่องที่”ประจักษ์” ไปจับกระทงที่โคราช เพราะไม่มีการรายงานบริษัท นายริชาร์ด รอนนี่ รอส กรรมการผู้จัดการ บ.เวอริเซ็ค ประเทศไทย เปิดเผยกับรอง ผบ.ตร.ว่า”ไม่เคยมีการรายงานการล่อซื้อเข้ามา” และเป็นการล่อซื้อที่ผิดวัตถุประสงค์ของบริษัท
ส่วนลิขสิทธิ์”ริแลคคูมะ” ทาง T.A.C ยืนยันว่าได้สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวจากญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2560 ตอนนี้รอเอกสารยืนยันตอบกลับจาก SAN-X ที่ญี่ปุ่น