เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เปิดภาพ ภูมิปัญญาท้องถิ่นไร้สารเคมีและเครื่องจักร ของชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงทุ่งใหญ่นเรศวรฯ


8 พ.ย. 2562, 13:35



เปิดภาพ ภูมิปัญญาท้องถิ่นไร้สารเคมีและเครื่องจักร ของชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงทุ่งใหญ่นเรศวรฯ




 

วันนี้ 08 พ.ย. 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ชาวบ้านสะเนพ่อง กว่า 30 คนทั้งชายและหญิง ได้มาลงแรงเกี่ยวข้าวที่ไร่ของ นายเกรียงศักดิ์  กฤตยาตระกูล ซึ่งเลือกพื้นที่ทำไร่ในพื้นที่ป่า ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนัก ในฐานะเจ้าของไร่ โดยแต่เช้า นายเกรียงศักดิ์  ได้เตรียมน้ำดื่มพร้อมทั้งเครื่องดื่มและข้าว ไว้สำหรับเพื่อนบ้านทุกคน ที่มาช่วยเกี่ยวข้าว ได้ดื่มกิน ซึ่งการลงแรงเกี่ยวข้าวของที่นี่  ทำสืบทอดกันมาตั้งแต่ในอดีต  โดยมีข้อดีก็คือ ทำให้การเก็บเกี่ยวใช้เวลาไม่นาน และมีความเสี่ยงที่จะถูกสัตว์จำพวกหมูป่าและหนูป่า ที่คอยทำลายกัดกินสร้างความเสียหายน้อยลง  นายเกรียงศักดิ์ กฤตยาตระกูล ( เจ้าของไร่ ) กล่าว

 

หมู่บ้านสะเนพ่อง เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นพื้นที่ห่างไกล ไม่มีร้านค้า ชาวบ้านที่นี่ทุกครอบครัวจึงปลูกข้าวไว้บริโภคกันเอง  โดยอาศัยองค์ความรู้ในเรื่องการทำไร่หมุนเวียนที่สั่งสมกันมา จากรุ่นสู่รุ่น ข้าวที่ชาวบ้านปลูก จะเป็นพันธุ์ข้าวพื้นเมือง ที่ได้จากการจัดเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เอง หรือได้จากการแบ่งปันกันในชุมชน โดยที่ไม่ต้องไปซื้อหา  พันธุ์ข้าวที่เลือกเป็นพันธุ์ข้าวที่ใช้น้อย อาศัยเพียงน้ำฝนจากธรรมชาติเท่านั้น

 

ส่วนพื้นที่ในการทำไร่ข้าวก็จะเลือกจากพื้นที่ป่ารอบๆหมู่บ้าน เพื่อสะดวกในการดูแลระหว่างการเพาะปลูก และใช้พื้นที่ไม่มาก โดยพื้นที่ที่เลือกทำไร่ข้าว จะต้องเป็นพื้นที่มีความลาดเอียง และเป็นพื้นที่ป่าไผ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสม เนื่องจากพื้นที่ลักษณะดังกล่าวจะมีดินที่อุดมสมบูรณ์และเหมาะกับพันธุ์ข้าวที่มี  โดยอาศัยปุ๋ยที่ได้จากการเผาไม้ไผ่

 

ส่วนความลาดเอียงของพื้นที่ไร่ จะช่วยทำให้วัชพืชในไร่ข้าวเกิดขึ้นน้อย เนื่องจากน้ำฝนที่ตกลงมาจะพัดพาเมล็ดวัชพืชที่อยู่ในพื้นที่ไร่ ไหลไปกับน้ำลงไปยังพื้นที่ราบด้านล่าง ทั้งนี้การทำไร่ข้าวในระบบไร่หมุนเวียนของคนกะเหรี่ยง จะไม่มีการใช้ยาฆ่าหญ้าและสารเคมีใดๆ รวมไปถึงเครื่องจักรเป็นการสิ้นเปลืองอยู่แบบวิถีชุมชนมาหลายชั่วอายุคนของชาวกะเหรี่ยง ในเขตทุ่งใหญ่นเรศวรฯ การกำจัดวัชพืชจะใช้วิถี การถอนหรือการใช้มีด จอบ ในการกำจัดวัชพืช ก่อนนำไปทิ้งไว้รอบๆไร่ จึงทำให้ไร่ข้าวของคนกะเหรี่ยง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญทำให้ชาวบ้านที่นี่ได้กินข้าวที่ปลอดสารเคมี ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของชาวบ้านที่นี่ นายแสนดี  สังขเรืองรุ้ง ชาวบ้านสะเนพ่อง กล่าว

 

นอกจากในไร่ข้าว จะปลูกข้าวแล้ว ชาวบ้านสะเนพ่อง ยังนิยมปลูกผัก จำพวก เผือก ฟังเขียว ฟักทอง แตงไทย บวบ รวมทั้งพริกกะเหรี่ยงไว้ในไร่ข้าว เพื่อเก็บไว้กินและประกอบเป็นอาหารไว้ถวายพระ ในงานบุญต่างๆอีกด้วย ผลจากการไม่ใช้สารเคมี ทำให้ในไร่ข้าวของชาวกะเหรี่ยง จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยสังเกตได้จากการพบแมลงต่างที่อยู่ในธรรมชาติ  รวมทั้งพันธุ์ไม้ในธรรมชาติ ที่ยังคงพบเห็นได้ในไร่ข้าวของชาวบ้านที่นี่ เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการเก็บเกี่ยว  พื้นที่ไร่ข้าวก็จะถูกปล่อยทิ้งไว้ ให้ค่อยๆปรับสภาพกลับมาเป็นป่าในระยะเวลา 3-4 ปีพื้นที่แห่งนี้ก็จะกลับมาเป็นพื้นที่ป่า เพื่อให้ชาวบ้านได้กลับมาทำไร่ปลูกข้าวไว้กินอีกครั้ง ตามวงรอบของการทำไร่ข้าว ในรูปแบบของไร่หมุนเวียน ที่กระทรวงวัฒนธรรม ได้ประกาศให้ไร่หมุนเวียนของชาวกะเหรี่ยง เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ  ตามมติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553./

 



 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.