โรงงานกำจัดขยะ งัดวิธีหยุด!! "มงคลกิตติ์" และคณะ เข้าเก็บตัวอย่างน้ำ-ดิน นำสิบล้อจอดขวาง
14 มิ.ย. 2562, 19:48
วันที่ 14 มิ.ย.2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุม 2 (ชั้น 3) ฝั่งทางรถไฟศูนย์ราชการ จ.สระบุรี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคศรีวิไลย์ พลโท อัศวิน รัชฏานนท์ รองหัวหน้าพรรค เลขาพรรคฯ น.ส.ภคอร จันทรคณา โฆษกพรรคฯ และคณะ พร้อมด้วย นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ (มาร์คพิตบูล) เดินทางมาติดตามกรณีโรงงานกำจัดขยะแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งมีประชาชนร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากรถบรรทุกขยะวิ่งเข้าโรงงาน กลิ่น และเสียง อย่างรุนแรงให้กับประชาชนโดยรอบโรงงานในเขตรอยต่อของ 4 ตำบล 2 อำเภอ ได้แก่ ต.หนองปลาไหล ต.กุดนกเปล้า อ.เมือง และ ต.ห้วยแห้ง ต.หนองน้ำเขียว อ.แก่งคอย ได้รับความเดือดร้อน โดยก่อนหน้านี้ คณะของหัวหน้าพรรคศรีวิไลย์ และ มาร์คพิตบูล ได้เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใน จ.สระบุรี มาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือน (ม.ค.62) โดยมีนายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการ จ.สระบุรี พ.อ.เพิ่มศักดิ์ ขุนโชลน รอง ผอ.กอ.รมน. จ.สระบุรี อุตสาหกรรม จ.สระบุรี ขนส่ง จ.สระบุรี ทหาร ตำรวจ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ รวมถึงแกนนำชาวบ้านที่เดือดร้อนเข้าร่วมประชุมด้วย
บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เมื่อฝ่าย นายมงคลกิตติ์ และนายณัชพล และคนอื่นๆ ที่เดินทางมาเมื่อครั้งที่แล้ว ( ม.ค.62) เปิดฉากซักถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยอ้างว่าการที่คณะลงพื้นที่มาติดตามครั้งนี้ ถือเป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญไม่ต้องการที่จะมีปัญหากับหน่วยราชการ แต่ต้องการมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดยมี พ.อ.เพิ่มศักดิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยตอบคำถาม ใช้เวลากว่า 1 ชม. จึงเสร็จ ซึ่งที่ประชุมมีมตินำคณะ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะของ นายมงคลกิตติ์ ลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ และดินไปตรวจสอบว่ามีสารพิษอันเป็นอันตรายต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมากน้อยแค่ไหน ส่วนเรื่องของกลิ่นนั้นยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะขาดเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ตรวจสอบโดยมี ผู้ใหญ่บ้าน และแกนนำชาวบ้านเป็นผู้นำชี้จุดที่ทางโรงงานกำจัดขยะปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำ คลองหนองน้ำเขียว
นายมงคลกิตติ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนเดินทางลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่าง น้ำ และดิน ใกล้โรงงานกำจัดขยะ ว่าความเดือดร้อนของชาวบ้านดังกล่าวนี้ ตนได้รับการร้องเรียนตั้งแต่ยังไม่ได้เป็น ส.ส. และได้ มาตรวจสอบข้อเท็จจริงครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ 4 ม.ค.62 ผ่านมากว่า 5 เดือน และตนได้รับเลือกเป็น ส.ส.แล้วตนคงได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ความเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานกำจัดขยะยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ตนพร้อมคณะ และคุณมาร์ค จึงได้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้จึงพบว่าการดำเนินการของที่นี่ ( สระบุรี) ล่าช้า ไม่เหมือนที่ จ.ราชบุรี เมื่อลงไปตรวจสอบพบมีความเดือดร้อนจริง ทางจังหวัดได้สั่งปิดโรงงานก่อนทันที 30 วันก่อนที่จะให้หน่วยงานต่างๆ เข้าไปตรวจสอบ เจาะเก็บน้ำใต้ผิวดินมาหาค่าความผิดปกติ ส่วนที่สระบุรีตนไม่อยากตำหนิว่า ล่าช้า ซึ่งหลังจากนี้ ตนได้ให้ แกนนำ และชาวบ้านที่เดือดร้อนเดินทางไปยื่นเอกสารความเดือดร้อนให้กับตนที่สภาผู้แทนราษฏรในวันเปิดประชุมนัดแรก คาดว่าจะเป็นวันพุธ หรือพฤหัสบดีหน้าที่จะถึงนี้จากนั้น ตนจะยื่นกระทู้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันดังกล่าวทันที
จากนั้นชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนได้นำคณะ ของ นายมงคลกิตติ์ และ นายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าฯ จ.สระบุรี ไปยังถนนในหมู่บ้านในเขต หมู่ 8 ต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย เพื่อเก็บตัวอย่าง น้ำ/ดิน ใกล้บ่อฝังกลบขยะเพื่อนำไปตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจาก ทางผู้ประกอบการโรงงานกำจัดขยะ ให้คนขับรถบรรทุกสิบล้อ จำนวน 3 คัน จอดขวางทางเข้าไว้ โดย มี พ.อ.เพิ่มศักดิ์ รอง ผอ.กอ.รมน. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย เดินไปเคาะกระจกรถด้านคนขับให้เปิกระจกพูดคุยและให้ขับรถออกไป แต่คนขับวางเฉย ทำไม่รู้ไม่ชี้มีการพูดคุยโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา โดยมี นายสมภพ รองผู้ว่าฯ ยืนดูด้วยความหัวเสีย กระทั่งเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ พ.อ.เพิ่มศักดิ์ ได้ติดต่อประสานงานกับผู้บริหารบ่อขยะ โดยตรง และจากการพูดโต้ตอบกันทราบว่า จุดที่คณะจะเข้าไปเก็บตัวอย่างน้ำ และดิน นั้นเป็นที่เอกชน หากผู้ใดเข้าไปจะฟ้องข้อหาบุกรุก แต่ในเวลาไม่นานนัก คนขับรถบรรทุกสิบล้อก็นำรถที่ขวางทางเข้าอยู่ออกไป แต่คณะฯ ก็ไม่กล้าเข้า โดยให้ชาวบ้านนำไปในฝั่งตรงข้ามที่มีรางรถไฟขวางอยู่และเป็นที่ของรถไฟเพื่อเก็บตัวอย่าง น้ำ และดิน ในบริเวณนั้นไปแทน และก่อนเดินทางกลับ นายมงคลกิตติ์ และคณะได้เดินทางไปพบชาวบ้าน ที่รออยู่ ณ วัดเขาจำปา ในเขตหนองปลาไหลด้วย