คนไทยสร้างชื่อจารึก "แข่งยืนแตะรถอึด" ชนะ 8 ประเทศร่วมท้าชิง ณ ประเทศสิงคโปร์ ได้สำเร็จ
8 พ.ย. 2562, 17:42
วันที่ 7 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า บรรยากาศเกาะติดขอบสนามที่ประเทศสิงหโปร์ ของกิจกรรม การแข่งขันแตะรถซูบารุ “Last Palm Standing- Mediacorp Subaru Car Challenge” ที่ประเทศสิงคโปร์ ในที่สุด คนอึดไทยก็สามารถคว้าแชมป์จากรายการแข่งมาได้สำเร็จ และเป็นครั้งแรกที่คนไทยชนะได้แชมป์ ในรอบ 12ปี ที่มีการจัดการแข่งขันขึ้นมา โดยมี “นายศิริพงศ์ ทุษดีหรือพี่ขาว” สุดยอดคนแกร่งอึดชาวไทย ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งอีกกว่า 390 คน จาก 8 ประเทศอาเซียนลงได้ อาทิ ประเทศสิงหโปร์ (เจ้าภาพ) จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม ทำเอาทีมสื่อมวลชนจากไทยที่ได้บินลัดฟ้าไปร่วมทำข่าวเกาะติดกิจกรรมนี้ พร้อมคนไทยทั้งที่เดินทางไปช๊อปปิ้งและทั้งที่อาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์ แวะเวียนกันเขามาส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจตัวแทนคนไทย นายศิริพงศ์หรือพี่ขาว ในช่วงเวลาชั่วโมงที่ 76.55 นาที กันอย่างล้นหลาม ต่างร้องตระโกนเชียร์ "ไทยแลนด์ ไทยแลนด์ สู้ๆ"ในช่วงไฟลนอล (final) ของการแข่งขันตัดสินในช่วงวินาทีโค้งสุดท้าย ท่ามกลางผู้ชมอีกหลายเชื้อชาติที่ยืนเชียร์กันและทึ่งอึ่งกับความอึดของคนไทย ที่ยิ้มไม่หุบ พร้อมส่งเสียงดังเฮลั่น “ไทยแลนด์ๆๆ” กันดังสนั่นหน้าตึกห้างสรรพสินค้า หงี อาน ซิตี้ (Ngee Ann City) บนถนนออชาตแหล่งช็อปปิ้งชื่อดัง ซึ่งการแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 2-5 พ.ย.62
นายศิริพงษ์ ทุษดีหรือขาว อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดศรีสะเกษ อาชีพพนักงานขับรถเปิดเผยว่า “ผมเข้าร่วมการแข่งขันนี้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ในความท้าทาย แม้ว่าร่างกายจะเหนื่อยล้า แต่ผมมีความสุขมากจริงๆ ที่ชนะ หลังจากที่พยายามสู้กับขีดจำกัดของตัวเองมาเป็นเวลา 4 วัน ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จึงสามารถคว้าชัยชนะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด รับรางวัลเป็นรถยนต์ The All-New Subaru Forester 2.0i-L มูลค่า 1.33 ล้านบาท พร้อมเงินรางวัลอีก 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ผมขอขอบคุณผู้สนับสนุนบริษัท ที ซี มอเตอร์ประเทศไทย และบริษัท ตันจง Mediacorp พร้อมกองเชียร์ที่คอยให้กำลังใจ ผมซาบซึ้งใจอย่างมากๆ ครับ ตอนนี้ก็ตั้งตารอที่จะได้ขับรถยนต์ซูบารุคันใหม่กับครอบครัวและเพื่อนๆ
สำหรับสถิติที่ “นายศิริพงศ์ ทุษดี” ทำเอาไว้ในครั้งนี้คือ 76 ชั่วโมง 55 นาที 05 วินาที (ตัวเลขสวยมาก แถมเบอร์แข่งยังเป็น R05 อีกต่างหาก) และสถิตินี้ยังทำลายสถิติเดิมของตนเอง และที่คนอึดชาวไทยคนสุดท้ายของการแข่งขันที่เคยทำเอาไว้อีกด้วย ในส่วนของคว้ารางวัลใหญ่เป็นรถยนต์ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ รุ่น 2.0i-L และเงินรางวัลรวม 6,000 ดอลลาร์สิงคโปร์
ปี 2012 นายสมัชญ์ เทพเสน 76 ชั่วโมง 9 นาที
ปี 2013 นายสากล ภูมิเลิศ 59 ชั่วโมง 29 นาที
ปี 2014 นายไพรทูน สงวนนาม 72 ฝชั่วโมง 41 นาที
ปี 2015 นายสากล ภูมิเลิศ 68 ชั่วโมง 51 นาที
ปี 2016 นายศิริพงศ์ ทุษดี 54 ชั่วโมง 1 นาที
ปี 2017 นายพลไพศาล ประภาเศรษฐี 49 ชั่วโมง แต่เคยทำเวลาไว้ได้สูงสุดที่ 59 ชั่วโมง 40 นาที
ปี 2018 นายไพรทูน สงวนนาม 75 ชั่วโมง 15 นาทีและปีล่าสุด ปี 2019 ศิริพงศ์ ทุษดี 76 ชั่วโมง 55 นาที 05 วินาที
โดยกติกาของผู้เข้าแข่งขันจะต้องใช้ฝ่ามือขวาแตะไว้อยู่บนสติกเกอร์รูปมือที่แปะเอาไว้บนตัวรถให้แนบสนิทเอาไว้ตลอดเวลา และห้ามให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายสัมผัสโดนตัวรถ หรือห้ามมือขวาหลุดออกมาจากสติกเกอร์เด็ดขาด ซึ่งจะถือว่าตกรอบในทันที และสิ่งที่โหดที่สุดคือ ทุกคนจะต้องแตะรถเป็นเวลานานถึง 6 ชั่วโมง ถึงจะได้พักเป็นเวลาเพียง 5 นาที ในการรับประทานอาหาร เข้าห้องน้ำ ได้เท่านั้น เมื่อหมดเวลา 5นาทีทอง ต้องกลับมาแตะที่ตัวรถต่อ อย่างต่อเนื่องไม่มีการหยุดพักใดๆ ทั้งสิ้น แน่นอนว่าจะต้องอดหลับอดนอน ทนตากแดด และฝนที่ตกหนัก ตลอดการแข่งขันด้วยเช่นกัน งานนี้ต้องมี สติ อยู่เสมอ ใครเผลอหลับแล้วมือหลุดออกจากตัวรถก็จะตกรอบไปตามระเบียบและผู้ที่สามารถยืนอยู่ได้เป็นคนสุดท้ายของกิจกรรม โดยที่ฝ่ามือยังคงวางไว้แนบบนสติกเกอร์รูปฝ่ามือที่แปะบนตัวรถยนต์ซูบารุจะได้รับรางวัลเป็นรถยน์ซูบารุ (subaru Forester 2.0i-L มูลค่า1,330,000 บาท เป็นรางวัลกลับบ้าน
การแข่งขันในปีนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ทีมคนอึดชาวไทยคว้ารางวัลชนะเลิศเป็นผลสำเร็จ จากการเข้าร่วมการแข่งขัน 8 ครั้ง (รวมครั้งปัจจุบัน) ซึ่งที่ผ่านมาชาวสิงคโปร์คว้าแชมป์มาโดยตลอด จะมีเพียงปี 2015 ที่ประเทศเวียดนาม อึดทะลุแดดคว้าแชมป์ชิงมาจากสิงคโปร์ได้สำเร็จ และยังทำเวลาเอาไว้ถึง 77 ชั่วโมง 58 นาที และมีการทำสถิติการยืนแตะรถที่ยาวนานที่สุดในปี 2014 ทำเอาไว้ถึง 82 ชั่วโมง 16 นาที โดยชายรุ่นใหญ่ชาวสิงคโปร์อย่าง “G Jaishanker” ซึ่งในปีที่ผ่านมาทีมไทยเกือบคว้ารางวัลได้เฮเมื่อหนุ่มต้นกลเดินเรือสินค้า “นายไพรทูน สงวนนาม” จบการแข่งขันในอันดับที่สอง ทำเวลาไปได้ถึง 75 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งในปีนี้แล้วถือว่าไทยเข้ารอบมาได้ลึกมากที่สุด เป็นประวัติการณ์ แต่ในปีนี้ทีมตัวแทนประเทศไทยได้คว้าชัยชนะมาอย่างยิ่งใหญ่ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์อีกครั้งว่า “คนไทยก็แข็งแกร่งไม่แพ้ชาติใด” และ “อึดที่สุดในอาเซียน” แม้เกมส์การแข่งขันแตะรถอึดนี้จะไม่เป็นที่นิยมเหมือนเกมส์กีฬาทั่วไปก็ตาม