วันนี้ (12 พ.ย. 62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร, ตำรวจทางหลวง, แขวงทางหลวงชุมพร, ขนส่งจังหวัดชุมพร, ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชุมพร, ประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร, ลงพื้นที่บริเวณวงเวียนแยกทางตัน เพื่อตรวจดูการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจรในการกวดขันจับกุม ผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด ด้วยเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา บนถนนสายแยกปฐมพรเข้าสู่ตัวเมืองชุมพรโดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือน พร้อมชี้แจ้งทำความเข้าใจ แก่ผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด

จากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจร ระยะเวลาเพียง 30 นาที พบผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ใช้ความเร็วเกิน 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กว่า 10 ราย ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดไว้ โดยถนนสายดังกล่าวได้กำหนดให้ใช้ความเร็วอยู่ที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากอยู่ในย่านชุมชน และมักเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้กำหนดความเร็วของยานพาหนะไว้ที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากเกินกว่านี้ต้องดำเนินการ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกในการกวดขันจับกุมความเร็วเกินกฎหมายกำหนด จึงไม่มีการเปรียบเทียบปรับ แต่ได้ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือน พร้อมชี้แจ้งทำความเข้าใจแก่ผู้ขับขี่ยานพาหนะ รวมถึงการประชาสัมพันธ์การใช้รถใช้ถนนตามวินัยจราจร

 รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ศูนย์ป้องกันอุบัติภัยทางถนนจังหวัดชุมพรได้ดำเนินมาตรการกวดขันจับกุม ผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด ถนนสายแยกปฐมพรเข้าสู่ตัวเมืองชุมพร เนื่องจากถนนสายดังกล่าวมักเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งจากศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าการเกิดอุบัติเหตุมาจากการใช้ความเร็วเป็นส่วนใหญ่ จึงได้ดำเนินมาตรการกวดขันจับกุม ผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดเป็นอันดับแรก หากผู้ขับขี่ยานพาหนะใช้ความเร็วตามที่กำหนด การเกิดอุบัติเหตุ และการสูญเสียจะลดลง โดยถนนสายดังกล่าวได้กำหนดความเร็วที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงได้มีการใช้เครื่องตรวจจับความเร็วในถนนสายดังกล่าว ซึ่งในปฏิบัติเบื้องต้นไม่ได้เข้มงวดมากนัก แต่เป็นการว่ากล่าวตักเตือน และประชาสัมพันธ์ เพื่อไม่ต้องการให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ได้เตรียมการในมาตรการต่อไปไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการติดป้ายเตือน ป้ายใช้ความเร็ว การเข้มงวดกวดขันของเจ้าหน้าที่ โดยฝากบอกถึงพี่น้องประชาชนว่า ทุกอย่างที่เจ้าหน้าที่ และสวนราชการทำไป ก็เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน อยากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีความปลอดภัย รวมถึงนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัย ซึ่งในช่วงแรกอาจจะไม่สะดวกมากนัก แต่หากเมื่อใช้ความเร็วลดลง ต่อไปการเกิดอุบัติเหตุ ก็จะลดลงตามไปด้วย