ไล่ล่าตัว "ไอ้อ้วนมหาภัย" บีบคอขู่บังคับเด็กชายอมนกเขากลางป่าละเมาะ
13 พ.ย. 2562, 08:59
วันที่ 13 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงา นความคืบหน้าจากกรณีเด็กชายวัย 13 ปี ขณะขี่รถจักรยานเล่นอยู่ในซอยหน้าบ้านพัก ในชุมชนหนองตุ เขตเทศบาลนครอุดรธานี มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างอ้วนเตี้ย ผิวคล้ำ สวมเสื้อกันหนาวสีเหลือง เดินเข้ามาบีบคอขู่บังคับเดินไปป่าละเมาะริมถนน ซ.ประชาราษฎร์ ชุมชนหนองตุ หลังวัดวิเวกบูรพาชัย ราว
ความคืบหน้าล่าสุด หลังยายของเด็กชายผู้ถูกกระทำ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์และให้ปากคำต่อตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ตำรวจสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.วงศกร วันชัย สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวและขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการหอพัก แมนชั่น ระแหวกใกล้เคียงจุดเกิดเหตุและบ้านพักของผู้เสียหาย เพื่อแกะรอยเก็บภาพตำหนิรูปพรรณของคนร้ายไว้เป็นหลักฐาน จากกล้องวงจรปิดติดตามล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเร็ว จนพบตัวคนร้ายเดินผ่านไปมาบริเวณ ถนนหน้าหอพักมีชื่อแห่งหนึ่งใกล้กับบ้านพักผู้เสียหาย (หอพักมุดา)ก่อนคนร้ายจะเดินไปก่อเหตุกระทำชำเราเด็กชายวัย 13 ปี โดยการบีบคอบังคับให้อมนกเขาสลับกันราว 30 นาที แต่ไม่สำเร็จความใคร่
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดที่หอพักดังกล่าว พร้อมกับคุณยายและด.ช.วัย 13 ปีซึ่งเป็นผู้เสียหาย พบนายเฉลิมชาติ ฉัตรธนะกุล อายุ 63 ปี ผู้ดูแลหอพัก ตรวจสอบภาพวงจรปิด พบคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 20-25 ปี รูปร่างเตี้ยอ้วน สวมเสื้อกันหนาวสีเหลือง แขนสีเขียว กางเกงยีนส์ขายาว เดินในลักษณะอ้อนแอ้นคล้ายกระเทย จากปากซอยบ้านพักผู้เสียหาย เวลา 16.09 น. ผ่านหน้าหอพักไปทางปากซอยข้างโรงเรียนบ้านหนองตุ ก่อนเดินกลับไปก่อเหตุผ่านหน้าหอพักเวลา 17.28 น. ในวันเดียวกัน ซึ่งทันทีที่เด็กชายผู้ถูกกระทำเห็นภาพคนร้ายได้ชี้ยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุกับตนเองจริง ตรวจสอบที่ลำคอของเด็กชายวัย 13 ยังพบร่องรอยมือคนร้ายที่บีบคอบังคบขืนใจด้วย
นายเฉลิมชาติ ฉัตรธนะกุล ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวว่า ทั้งนี้ได้รับการประสานจากตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งไม่ใช่หอพักของตนเองเพียงแห่งเดียว มีหอพักใกล้กับจุดเกิดเหตุหลายแห่งที่พร้อมให้ความร่วมมือ กับทางตำรวจและสื่อมวลชนอย่างเต็มที่ เนื่องจากคนร้ายรายนี้ถือว่าเป็นบุคคลอันตรายมาก ถือเป็นภัยสังคม โชคดีที่คนร้ายไม่ทำอันตรายผู้เสียหายถึงชีวิต และหากเป็นเด็กผู้หญิงยิ่งไปกันใหญ่ ยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก อย่างไรก็ตามขอให้ทางตำรวจเร่งติดตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด กลัวคนร้ายจะไปก่อเหตุกับรายอื่นอีก
ด้านยายของเด็กชายผู้ถูกกระทำ บอกว่า ขอขอบคุณผู้แลหอพักแห่งนี้และในละแวกใกล้เคียง ที่ให้ความร่วมมือกับสื่อมวลชนและตำรวจ จนเห็นใบหน้าตำหนิรูปพรรณคนร้านที่ค่อนข้างชัดเจน และอยากให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะหากยังจับคนร้ายไม่ได้เกรงจะไปก่อเหตุกับเด็กลูกหลานคนอื่นอีก
ด้าน พ.ต.ท.วงศกร วันชัย สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากลงพื้นที่สืบสวนหาหลักฐานและพยานแวดล้อมในชุมชน ซึ่งทางตำรวจได้หลักฐานมามากพอสมควร อทิ ภาพจากล้องวงจรปิดที่สื่อมวลชนและตำรวจได้มาจากความร่วมมือเจ้าของหอพักหลายแห่ง รวมทั้งจากการสอบสวนชาวบ้านในเบื้องต้นสันนิฐานว่าคนร้ายน่าจะไม่ใช่คนในชุมชน เนื่องจากไม่มีใครรู้จัก และเคยเห็นหน้ามาก่อน พร้อมกับประสานงานตำรวจทุกหน่วยให้เพิ่มกำลังในการออกตรวจพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายก่อเหตุซ้ำ
และอยากจะฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลสอดส่องบุตรหลานให้ดี ในขณะที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้ถือว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคมมาก และหากประชาชนเห็นภาพคนร้ายผ่านสื่อต่างๆ ให้รีบโทรตำรวจทันที อย่างไรก็ตามในพยานหลักฐานที่ทางเรามีอยู่มากพอสมควร ขอยืนยันว่าอีกไม่นานคงจับตัวคนร้ายได้อย่างแน่นอน แต่ขอเวลาตำรวจในการทำงานบ้างเท่านั้นพอ//////////////////