เมื่อวันที่ 13 พ.ย.62 ภายใต้การอำนวยการของ ว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า นายสมศักดิ์ ชูแสง ปลัดอำเภออาวุโส อ.ตะกั่วป่า พ.ต.อ.เสกสรร แก้วสว่าง ผกก.สภ.ตะกั่วป่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ทำการปกครองอำเภอตะกั่วป่า และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า นำโดยนายอาทิตย์ เพ็ชร์กุล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ตะกั่วป่า และนายภานุวัฒน์ สองเมือง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ตะกั่วป่า นายจักรพงศ์ ทองนะ ปลัดอำเภอศูนย์ดำรงธรรม อ.ตะกั่วป่า นายณัฐวุฒิ ภาโอภาส ปลัดอำเภอศูนย์ดำรงธรรม อ.ตะกั่วป่า พ.ต.ต.บพิตร หมึกดำ สว.สส.สภ.ตะกั่วป่า ด.ต.สายันต์ แก้วประเสริฐ ผบ.หมู่ (ป)ด.ต.พิพัฒน์ จิรกวิน ผบ.หมู่ (ป)ด.ต.สุพจน์ คงอินทร์ ผบ.หมู่(ป) พร้อมด้วยสมาชิก อส.สังกัด กองร้อย อส.อ.ตะกั่วป่าที่ 7 ประกอบด้วยนายหมู่ใหญ่ชาตรี พรหมคีรี นายหมู่โทธีระสิทธิ์ จันเพชร์ สมาชิกเอกธำรง บำรุงมิตรสมาชิกเอกวิเชียร ธรรมบุตร สมาชิกเอกพรชัย แก้วประเสริฐ สมาชิกเอกทรงธรรม ชูช่วย สมาชิกตรี ชลชัย เชาว์พานิช อส.สุขสันต์ สมทรัพย์ อส.อุสมาน ใจเหล็ก อส.วรเดช กิ้มทองติ๋น อส.ภานุพงษ์ ยงกุล และ อส.ฤทธิชัย พลอยขาว ได้ร่วมจับกุมนายเกรียงไกร ทองคำไทย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ที่ 2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายวิษณุ บัวพา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/1 หมู่ที่ 2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายสุชีพ นิลมา อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1 หมู่ที่ 9 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายศรัณยู กลิ่นหอม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายอิฐ หันช่อ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/34 หมู่ที่ 4 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นางสาวผ่องพรรณ กับกิว อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 3 ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนักพนันที่กำลังนักเล่นพนันกันที่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ที่ 2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมของกลางโต๊ะไม้บุด้วยผ้ากำมะหยี่สีเขียว จำนวน 1 ตัว เก้าอี้พลาสติกสีฟ้าจำนวน 12 ตัว ไพ่กระดาษสีแดงจำนวน 26 ใบ ตระกร้าพลาสติกสีเหลืองมีฝาปิดสีแดง จำนวน 1 ใบ ไพ่กระดาษสีน้ำเงินจำนวน 35 ใบ ไพ่กระดาษสีแดง จำนวน 1 สำรับ(52 ใบ) ไพ่กระดาษสีน้ำเงิน จำนวน 1 สำรับ (52 ใบ)และหนังสือขอผ่อนผันหนี้นอกระบบ เงินกู้นอกระบบ โดยไม่มีสัญญา ธนบัตรเงินไทยฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ใบ ธนบัตรเงินไทยฉบับละ 100 บาท จำนวน 14 ใบ ธนบัตรเงินไทยฉบับละ 20 บาท จำนวน 19 ใบ เหรียญกษาปณ์เงินไทยเหรียญละ 10 บาท จำนวน 10 เหรียญ เหรียญกษาปณ์เงินไทยเหรียญละ 2 บาท จำนวน 2 เหรียญเหรียญกษาปณ์เงินไทยเหรียญละ 1 บาท จำนวน 1 เหรียญ รวมจำนวนเงิน 2,295 บาท

 

จากการจับกุมได้ในครั้งนี้สืบเนื่องจากทางศูนย์ดำรงธรรมที่ทำการปกครองอำเภอตะกั่วป่าได้รับแจ้งจากประชาชนว่าในเขตพื้นที่อำเภอตะกั่วป่า มีบุคคลลักลอบปล่อยเงินกู้โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และมีการลักลอบเล่นการพนันที่บ้านผู้ให้กู้ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า จึงได้วางแผนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุซึ่งเปิดบริการโต๊ะสนุกเกอร์ให้กับประชาชนทั่วไป และพบนายเกรียงไกรฯ ผู้ต้องหาลำดับที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ให้กู้คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 30 ต่อเดือน โดยไม่มีการหักเงินต้นต่อเนื่องทุกเดือน ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวข้างต้นเข้าข่ายเป็นการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และทางเจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีการลักลอบเล่นการพนันเอาทรัพย์สินประเภทไพ่เก้าเกบริเวณห้องด้านหลังของบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีผู้ร่วมเล่นการพนันจำนวน 5 คน การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าชุดจับกุมที่เหลือซึ่งซุ่มสังเกตการณ์อยู่บริเวณใกล้เคียงทราบและเดินทางมายังที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจค้น โดยผู้ต้องหาลำดับที่ 1 แสดงตัวเป็นเจ้าบ้านให้ความยินยอมและเป็นผู้นำค้น จากการตรวจสอบพบของกลางในการกระทำผิดกฎหมายรวมกันลักลอบเล่นการพนันพนันเอาทรัพย์สินกันจริง โดยการเล่นไพ่เก้าเกจัดมีวิธีการเล่นโดยการแจกไพ่ให้ผู้เล่นแต่ละคนคนละจำนวนเก้าใบ จัดเป็นชุดจำนวนชุดละสามใบ จากนั้นทำการหงายไพ่ของผู้เล่นแล้วดูแต้มในไพ่แต่ละชุดหากผู้ใดที่มีแต้มน้อยกว่าถือว่าเป็นผู้แพ้ทำให้มีการเสียทรัพย์ให้กับผู้ชนะในเกมส์นั้น และมีเล่นไพ่เก้าเกในสถานที่ดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือน โดยมีผู้ต้องหาคนที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าบ้านดังกล่าวเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน โดยเรียกเก็บค่าบริการรายเกมส์ของการเล่นการพนันในแต่ละรอบ จำนวนเกมส์ ละ 10 บาท ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่าและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด และนำตัวผู้ถูกจับมาทำบันทึกจับกุมที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนตะกั่วป่าที่ 7 พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาลำดับที่ 1 เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 มาตรา 4 (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไพ่เก้าเกโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนผู้ต้องหา 2 - 6 แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักลอบเล่นการพนันไพ่เก้าเกพนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมาย และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป