วันนี้ (13 พ.ย.62) ผู้สื่อข่าว ONB news จ.อุดรธานี รายงานว่า จากกรณีเหตุการณ์สะเทือนขวัญกลางศาลจ.จันทรบุรี พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อายุ 64 ปี อดีตจเรตำรวจ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นกล็อก สาดยิง นางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ โจทก์ , นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนาย และ โจทก์ เสียชีวิต รวมทั้งนายวิจัย สุขรมย์ ทนายความ เสียชีวิต และ นายวิชัย อุดมธนภัทร ทนายความ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ ผู้ก่อเหตุ ถูกตำรวจศาล ใช้อาวุธปืนยิง ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเกิดของนายวิจัย สุขรมย์ ทนายความ ซึ่งเป็นชาวบ้านบ้านเมืองพรึก ต.แชแล อ.กุมภวาปี ซึ่งทางพ่อแม่ของนายวิจัยฯ กำลังเดินทางไปรับศพ นายวิจัยฯ กลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ส่วนญาติๆก็ได้เตรียมจัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพนายวิจัยฯ ตามประเพณีอีสาน โดยจะจัดพิธีสวดพระอภิธรรมและฌาปนกิจศพที่ วัดป่ามัชฌิมวงวษ์รัตนาราม บ้านเหล่าใหญ่ ต.แชแล อ.กุมภวาปี

 

 

โดยบรรยากาศที่วัดป่ามัชฌิมวงษ์รัตนารามในวันนี้ มีบรรดาญาติพี่น้องของนายวิจัยฯ เข้ามาจัดเตรียมสถานที่ที่จะใช้เป็นที่จัดงานศพของ นายวิจัยฯ ที่ทางพ่อแม่ของนายวิจัยฯ กำลังเดินทางกลับพร้อมร่างของนายวิจัยฯ มาทำพิธีที่บ้านเกิด โดยเตรียมโลงเย็น เตรียมเครื่องเสียง ต่อไฟฟ้าส่องสว่าง และรอโต๊ะ เก้าอี้ เต้นท์ ที่ทางเทศบาลตำบลแชแล จะนำมาสำหรับการจัดงานศพ ซึ่งทางญาติ ๆ ของนายวิจัยฯ ต่างวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น ที่ทำให้นายวิจัยฯ ญาติของตัวเองต้องเสียชีวิต

 

 

 

นายพัฒนกุล พึ่งตระกูล ลุงของนายวิจัยฯ ทนายความที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจมากที่มาเกิดเหตุในสถานที่ราชการ ที่เป็นบัลลังก์ศาลที่สูงสุด แต่มาเกิดเหตุการณ์ที่สามารถเข้าไปยิงหน้าบัลลังก์ศาลยุติธรรม ที่ทุกคนต้องรู้ว่าเป็นที่ที่สำคัญ ต้องเคารพกฏของศาล และมีความปลอดภัย ซึ่งตนเสียใจอย่างมากที่มาเกิดเหตุกระทันหันแบบนี้ ในที่ที่ไม่น่าจะเกิดเหตุแบบนี้ และญาติพี่น้องทุก ๆ คนต่างก็เสียใจ และตกใจที่ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในสถานที่ที่สำคัญ

 

 

 

"ทั้งนี้ระบบรักษาความปลอดภัยของศาล มันยังไม่ดีเท่าไหร่ ควรที่จะพัฒนาให้ดีขึ้น เพื่อให้ความคุ้มครองกับผู้ที่ต้องเข้าไปในศาลให้ดีที่สุด และมาเกิดเหตุร้ายแรงกับญาติของเรา ผมอยากเรียกร้องให้ศาล มีมาตรฐานในการเข้มงวด การรักษาความปลอดภัย ให้ดีขึ้นกว่านี้ เพื่อที่ให้คนที่ต้องไปศาลเกิดความสบายใจ อย่างนี้ถือว่ายังล้าหลัง ในการดูแลรักษาความปลอดภัย"