ฝ่ายปกครอง อ.ตะกั่วป่า สนธิกำลังกว่า 10 นาย จับกุม "พ่อค้ายาบ้า" เปิดบ้านขายจริงจัง
15 พ.ย. 2562, 16:38
วันที่ 15 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานภาพเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า นำกำลังชุดเฉพาะกิจ อส.ตะกั่วป่า กว่า 10 นาย เข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดในพื้นที่สวนยางพารา หมู่ที่ 7 ต.บางไททร อ.ตะกั่วป่า เปิดบ้านจำหน่ายยาบ้าให้กับสายล่อซื้อของชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองอำเภอตกปลาจึงได้ปิดล้อมตรวจค้นบ้านดังกล่าวพบของกลางยาบ้าจำนวน 60 เม็ด ซึ่งจากการจับกุมในครั้งนี้ภายใต้การอำนวยการของ ว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่าผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอตะกั่วป่า นายสมศักดิ์ ชูแสง ปลัดอำเภออาวุโส อ.ตะกั่วป่า นำโดย นายอาทิตย์ เพ็ชร์กุล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ตะกั่วป่าเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.และนายภานุวัฒน์ สองเมือง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ตะกั่วป่า พร้อมด้วย สมาชิก อส.สังกัด กองร้อย อส.อ.ตะกั่วป่า ที่ 7 ประกอบด้วยนายหมู่ใหญ่สมยศ คงขำ นายหมู่ใหญ่ชาตรี พรหมคีรี นายหมู่โทธีระสิทธิ์ จันเพชร์ สมาชิกเอกธำรง บำรุงมิตร สมาชิกเอกวิเชียร ธรรมบุตร สมาชิกเอกพรชัย แก้วประเสริฐสมาชิกเอกทรงธรรม ชูช่วย, สมาชิกตรีชลชัย เชาว์พานิช, อส.สุขสันต์ สมทรัพย์ อส.ทราพร ชนะการ อส.ภานุพงษ์ ยงกุล และ อส.ฤทธิชัย พลอยขาว ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเกียรติศักดิ์ ชูนาขา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ที่ 3 ตำบลคุระ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา นางสาวรุ่งทิพย์ อุ่ยสกุล อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 7 ต.บางไทร อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 7 ตำบลบางไททร อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้า ลักษณะเป็นเม็ดกลมแบน สีแดง ด้านหนึ่งผิวเรียบ ด้านหนึ่งพิมพ์อักษร WY บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบสไลด์เปิดปิด จำนวน 60 เม็ด โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง ธนบัตรเงินไทยฉบับละ 500 บาท จำนวน 2 ฉบับ (ซึ่งเป็นเงินใช้ในการล่อซื้อ ส่งเฉพาะสำเนาธนบัตร) ธนบัตรเงินไทยฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 1 ฉบับ ธนบัตรเงินไทยฉบับละ 100 บาท จำนวน 22 ใบ ธนบัตรเงินไทยฉบับละ 50 บาท จำนวน 2 ฉบับ ธนบัตรเงินไทยฉบับละ 20 บาท จำนวน 10 ฉบับ รวมเป็นจำนวนเงิน 3,500 บาท (เชื่อได้ว่าได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด ตรวจยึดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ) รถยนต์กะบะยี่ห้อฟอร์ด สีขาว หมายเลขป้ายทะเบียน บฉ 6930 พังงา มีผู้ต้องหาลำดับที่ 2 เป็นผู้ครอบครอง (เชื่อได้ว่าได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด ตรวจยึดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534) อุปกรณ์การเสพยาเสพติด
จากการจับกุมได้ในครั้งนี้ เนื่องจากทางชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มเยาวชนมั่วสุมในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.บางไทร จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบบุคคลมีพฤติกรรมน่าสงสัยยืนอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำปั้มน้ำมันแห่งหนึงใน ต.บางไทร จึงได้แสดงตัวและแสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จากนั้นจึงได้ทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ โดยบุคคลดังกล่าวได้ให้ความยินยอม ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบมีสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ในปัสสาวะ สอบปากคำบุคคลดังกล่าวให้การว่าตนได้เสพยาบ้ามาจริง โดยซื้อยาบ้ามาจาก นายเอ็ม (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) ในราคาเม็ดละ 100 บาท อาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.บางไทร เจ้าหน้าที่ได้นำตัวบุคคลดังกล่าวเข้าสู่กระบวนบำบัดฟื้นฟูตามกฎหมายต่อไป พร้อมวางแผนทำการจับกุม โดยให้สายลับทำการล่อซื้อ เจ้าหน้าที่ได้มอบเงินให้สายลับจำนวน 1,000 บาท ซึ่งได้ทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้ว ไปทำการล่อซื้อยาบ้า จนกระทั่งเวลาที่เกิดเหตุ สายลับได้เดินทางไปทำการล่อซื้อยังที่เกิดเหตุ โดยตกลงซื้อยาบ้าจากผู้ต้องหาจำนวน 44 เม็ดในราคาเม็ดละ 100 บาท โดยสายลับจะจ่ายเงินให้ก่อน 1,000 บาท ส่วนที่เหลือจะนำมาจ่ายในภายหลัง เมื่อสายลับทำการล่อซื้อสำเร็จ ได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ซึ่งซุ่มสังเกตการณ์อยู่ในบริเวณใกล้เคียงทราบ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุพบผู้ต้องหายืนอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าวและแสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้านที่เกิดเหตุ แสดงอาการพิรุธต้องสงสัย มีลักษณะกระวนกระวาย เจ้าหน้าที่ ฯ จึงได้แสดงตัวและแสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักดังกล่าว โดยได้แสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และใช้อำนาจตามตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 14(1) เข้าไปในเคหสถาน หรือสถานที่เพื่อตรวจค้นเมื่อมีเหตุอันควรสงสัย ตามสมควรว่ามีบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหลบซ่อนอยู่ หรือมีทรัพย์สินซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิด หรือได้ใช้หรือจะใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ บุคคลนั้น จะหลบหนีไป หรือทรัพย์สินนั้นจะถูกโยกย้าย ซุกซ่อน ทำลาย หรือทำให้เปลี่ยนสภาพไปจากเดิม โดยผู้ต้องหาให้ความยินยอมและเป็นผู้นำค้นก่อนเข้าทำการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ต้องหาดูจนเป็นที่พอใจแล้วจากการตรวจค้นพบผู้ต้องหาคนที่ 2 ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นภรรยาของผู้ต้องหาอยู่ภายในห้องนอนของบ้านที่เกิดเหตุและพบของกลางยาบ้า ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองรับว่าเป็นของตน สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การว่าซื้อยาบ้ามาจากนายบอล (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) ในราคาถุงละ 9,000 บาท ( 200 เม็ด ) มาจำหน่ายให้กับประชาชนและกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ในราคาเม็ดละ 100 บาท เจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ ผู้ถูกจับรับทราบและเข้าใจสิทธิ์ของตนดีแล้ว
จากนั้นจึงได้ทำการจับกุมพร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุมที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอตะกั่วป่าที่ 7 โดยทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่าได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตลาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป