วันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 นายวิบูลย์ รัตนาภรณวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดการฝึกการป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย จังหวัดชุมพร ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน มูลนิธิ อาสาสมัคร ประชาชน รวมกว่า 44 หน่วยงาน และกําลังพล 254 คน จากทุกอำเภอ ร่วมฝึกตามสถานการณ์จำลองเสมือนจริง

จากที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้งเตือน (ฉบับที่ 1-8) วันที่ 15 พ.ย.62 ว่ามีพายุโซนร้อน นากรี ในมหาสมุทรแปซิฟิก ผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. พายุโซนร้อนอาจทวีความรุนแรงเป็นพายุไต้ฝุ่นมีความเร็วลมสูงสุดบริเวณใกล้ศูนย์กลางประมาณ 130 กม./ชม. โดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามตรวจสอบสภาพอากาศกับ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 17-20 พ.ย. 62 พายุไต้ฝุ่น นากรี จะทวีความรุนแรงและเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดชุมพร ซึ่งจะมีผลทำให้บริเวณที่พายุเคลื่อนตัวผ่าน มีฝนตกหนักถึงหนักมากและเกิดลมกระโชกแรง อาจเกิด น้ำท่วมฉลับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในอ่าวไทยคลื่นสูง 3-4 เมตร

โดยจังหวัดชุมพร ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดชุมพร ณ ห้องประชุมเกาะทองหลาง ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดชุมพร และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการ 1.แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบลุ่มริมน้ำ ที่ราบเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัยทราบเกี่ยวกับพายุไต้ฝุ่น นากรี ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมลับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ให้ประชาชนเตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติรวมทั้งอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งทะเล อ.ละแม อ.หลังสวน อ.ทุ่งตะโก อ.สวี อ.เมืองชุมพร และ อ.ปะทิว ให้อพยพเรือขึ้นสู่ฝั่งหรือนำเรือหลบในที่ปลอดภัย โดยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นในพื้นที่อย่างรวดเร็ว 2.กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถติดตามสภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th 3.ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงาน ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนหากเกิดสถานการณ์ขึ้นในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที 4.รายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือที่ได้ดำเนินการในเบื้องต้นให้จังหวัดทราบทุกระยะ ทางหมายเลข โทรศัพท์/โทรสาร 077 503 230 และ 077 501 207 จนกว่าสถานการณ์จะยุติ

ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้จังหวัดชุมพรได้รับผลกระทบในหลายพื้นที่ โดยได้แจ้งให้พื้นที่เสี่ยงภัยจากพายุไต้ฝุ่น นากรี บริเวณชายฝั่งทะเล อ.ละแม อ.หลังสวน อ.ทุ่งตะโก อ.สวี อ.เมืองชุมพร และ อ.ปะทิว ให้อพยพราษฎร และอพยพเรือเข้าสู่ฝั่งหรือนำเรือหลบในที่ปลอดภัย ขณะที่อำเภอสวีได้เกิดเหตุ เรือประมง พานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมลูกเรือจำนวน 10 คน ซึ่งติดเกาะง่ามใหญ่และเกาะง่ามน้อยกลับมาเกิดอับปาง ฝั่งตำบลนากระตาม แจ้งว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วท่วมพื้นที่ ต.นากระตาม มีสัตว์เลี้ยงจำนวนมากต้องการขนย้ายสัตว์เลี้ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัย ด้าน อ.ทุ่งตะโก เกิดฝนตกหนัก ระบบน้ำในคลองปากตะโกเพิ่มสูงขึ้นท่วมฟาร์มเลี้ยงสัตว์ พร้อมรับรายงานว่ามีเรือประมงเล็ก 1 ลำ พร้อมลูกเรือ 2 คน ออกไปบริเวณเกาะมะพร้าว ต.ปากตะโก เกิดเรือล่มผู้ประสบภัยเกาะถังน้ำมันลอยคออยู่กลางทะเล ประกอบกับมีคลื่นพายุลมแรงเรือไม่สามารถออกให้ความช่วยเหลือได้ สถานการณ์รุนแรงเกินขีดความสามารถ จึงรายงานสถานการณ์และขอรับการสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ต่อ ผวจ.ชุมพร เพื่ออำนวยการสั่งการและประสานการปฏิบัติ ให้นำเฮลิคอปเตอร์ ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วน ตำบลปากทรง แจ้งว่า อ.พะโต๊ะฝนตกหนัก มีต้นไม้และสายไฟฟ้าล้มทับรถยนต์ มีผู้ติดอยู่ภายในรถยนต์ ได้รับบาดเจ็บ 1 คน บนถนนทางหลวง หมายเลข 4006 ต.ปากทรง และม.1 ต.ละแม ฝนตกหนักคลื่นพายุลมแรง มีเรือประมงถูกพายุพัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปากน้ำละแม มีลูกเรือทั้งหมด 10 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บ 3 คน ขณะที่ อ.หลังสวน เกิดฝนตกหนักพายุลมแรง น้ำคลองหลังสวนเออล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำสูง มีผู้ติดอยู่ในอาคาร จำนวน 3 คน ได้รับบาดเจ็บ 1 คน และ อำเภอเมืองชุมพร ได้สั่งการให้ อบต.ตากแดด อบต.บ้านนา อพยพประชาชน ประมาณ 100 คน ไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยมี อำเภอสวี ได้จัดตั้งครัวจิตอาสา เพื่อประกอบอาหารเลี้ยงแก่ผู้ประสบภัยที่อพยพมายัง ศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมประสาน มทบ.44 นำรถครัวสนาม เพื่อประกอบอาคารเลี้ยงแก่ผู้อพยพ จากนั้น ผวจ.ชุมพร อำนวยการสั่งการมอบหมายภารกิจ ให้เร่งสำรวจความเสียหาย การให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งการฟื้นฟูบูรณะ โดยใช้จ่ายเงินทดรองราชการในอำนาจของ ผวจ.ชุมพร ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยเร็ว

นายวิบูลย์ รัตนาภรณวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นสถานการณ์สมมุติ เพื่อเตรียมความพร้อมในการอํานวยการและประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งหน่วยงานทหาร หน่วยงานพลเรือน องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรสาธารณกุศล อาสาสมัคร และภาคประชาสังคม เมื่อเกิดสาธารณภัยให้สามารถวางแผนบูรณาการเครื่องมือ กําลังพล และทรัพยากรอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งเข้าใจหลักการ ขั้นตอน และวิธีปฏิบัติ สามารถจัดการภัยได้อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน เนื่องจากสถานการณ์สาธารณภัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นเป็นลําดับ ก่อให้เกิดความสูญเสีย ทั้งชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน และของทางราชการ อย่างมหาศาล และยังครอบคลุมอาณาบริเวณ ในวงกว้าง การเข้าถึงในการให้ความช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆ จึงมีความจําเป็นอย่างยิ่ง