ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม และ ธันน์ ธนากร เปิดใจในพิธีบวงสรวงละครเรื่อง “หนี้เกียรติยศ” วางแผนมีลูกแฝดปีหน้า เตรียมเบรกรับละคร เผยมีรอออนแอร์ 2 เรื่อง 

บทบาทการเป็นผู้จัดละคร?
ยุ้ย  “เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สองของค่ายสตาร์เฟรม เรื่องแรก เชิงชายชาญ เรื่องนี้ หนี้เกียรติยศ ค่ะ แนวละครจะเปลี่ยนไปจากเรื่องแรก เรื่องแรกเป็นบู๊แต่เรื่องนี้เป็นโรแมนติกดราม่าเข้มข้นสนุกมากค่ะ”

ธันน์  “เราก็อยากทำให้แต่ละเรื่องมีความแตกต่าง ค่ายเราทำได้หลายรสชาติ หลายรูปแบบอยู่แล้ว”

เรื่องนี้เข้าทางยุ้ยเพราะมาสายดราม่าอยู่แล้ว?
ยุ้ย  “ใช่ เข้าทางยุ้ย เรื่องนี้ขอเป็นยุ้ยบ้าง เป็นแนวดราม่า นางเอกน้องแม็กกี้ อาภา ไม่ต้องห่วงเลย เขาดราม่าเก่งอยู่แล้ว อย่างโอ๊ต(รัฐธีร์)เป็นพระเอกเรื่องแรกเต็มตัวก็จะต้องดูแลเป็นพิเศษหน่อย น้องเขามีความสามารถและมีความตั้งใจสูงมาก น่ารักมาก”

เรื่องที่แล้วธันน์ดูคิวบู๊เอง พอเป็นดราม่าต้องดูบทแค่ไหน?
ยุ้ย  “ก็ดูค่ะ จริงๆเราสองคนดูกันตั้งแต่บท ประชุมกันปรับเปลี่ยนตั้งแต่บท พอมาถึงหน้ากองเอง เราก็จะดูเป็นพิเศษโดยเฉพาะซีนที่สำคัญ จริงๆยุ้ยก็จะดูแลด้วยตัวเอง และก็ได้พี่เล็ก ผู้กำกับฯ ครูมิ้งที่ช่วยกำกับแอ็กติ้งด้วยอยู่แล้ว ช่วยกันดู”

ธันน์  “เราไม่ทิ้งอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะออกกองกี่โมง เราก็ต้องไปทุกวัน ไปคู่กันเลย”

กดดันมั้ยเป็นเจ้าแม่ดราม่ามาก่อน คนคาดหวังนางเอกจะต้องร้องไห้เท่าเรา?
ยุ้ย  “จริงๆไม่คาดหวัง และไม่กดดันอะไรน้องเลย เรามองว่าน้องเล่นได้อยู่แล้ว ไม่เคยไปพูดอะไรเลย ดูแค่น้องเล่นก็แทบจะไม่ต้องไปแนะนำอะไรเพิ่มเลย อาจจะต้องมีบางสิ่งบางอย่างอาจจะต้องขอเพิ่มนิดนึงหรือว่าอันนี้อยากได้หนักกว่านี้ก็จะมีแค่นั้น น้องทำการบ้านมาก่อนหน้านี้เองอยู่แล้ว”

เราสองคนยังเล่นละครอยู่มั้ย หรือไปลุยงานเบื้องหลังอย่างเดียว?
ยุ้ย  “เล่นค่ะ แต่ว่าเล่นของค่ายพี่ลอร์ด พี่เชาว์ ตอนนี้ยุ้ยก็มีผลงานอีก 2 เรื่องที่กำลังจะออนแอร์เร็วๆนี้ ส่วนค่ายของเราเองก็ให้คนอื่นเล่นบ้าง เพราะว่าเรื่องที่แล้วพี่ธันน์เล่นไปแล้ว”

ธันน์  “เรื่องนี้ขอไม่เล่นเอง (หัวเราะ)”

แบ่งเวลายังไงบ้าง?
ธันน์  “สามวันเราถ่ายละครอยู่แล้ว อีกหนึ่งวันเก็บเอาไว้ประชุมทีมงาน”
ยุ้ย  “ก็คือ 7 วันเต็ม ถ่ายละครเองด้วยและทำเป็นผู้จัดฯเองด้วยค่ะ”

วางแพลนจะมีลูกเมื่อไหร่?
ธันน์  “ก็น่าจะปีหน้าครับ เปิดอู่ยังครับ (หันไปถามยุ้ย)”
ยุ้ย  “เฮ้ย (หัวเราะ) ปีหน้าค่ะ ปีหน้าถ้าพร้อมก็คงจะมี จริงๆเราอยากมีกันแล้วเพราะด้วยอายุที่มันเยอะขึ้นทุกวัน”
ธันน์  “เพื่อนๆแต่ละคนมีลูกแซงกันไปหมดแล้ว ลูกเขาโตกันหมดแล้ว เดี๋ยวมีไม่ทันเขา”

กลัวมั้ยว่าพอถึงเวลาจริงๆจะมีปัญหาเหมือนคู่อื่น ตั้งใจมากๆแต่ยังไม่มาสักที?
ธันน์  “สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับบุญวาสนานะ เป็นลูกเราก็ต้องเป็นลูกเราอยู่ดี คิดอย่างนี้ครับ เราไม่ได้ไปจำกัดความว่าเดี๋ยวต้องมีเดือนนี้ให้ได้หรือปีนี้ให้ได้”
ยุ้ย  “จริงๆก็ไม่อยากเครียด เพราะรู้ว่ายิ่งเครียดก็ยิ่งจะไม่มี ก็เลยปล่อยไปตามธรรมชาติ”
ธันน์  “ด้วยความที่ยุ้ยทำงานหนักด้วยอยู่แล้ว พักผ่อนก็น้อย”

 

ได้ไปปรึกษาหมอกันบ้างหรือยัง?
ธันน์  “ก็มีไปปรึกษาบ้างครับ”
ยุ้ย  “คุณหมอก็อยากให้เราสบายๆ เดี๋ยวรอเบรกงานละครที่เครียดๆไปก่อน อยากได้แบบธรรมชาติก่อนแต่ที่เราไปปรึกษาคุณหมอเพราะตอนแรกเราอยากได้แฝด แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
ธันน์  “เพราะเรายังตกลงไม่ลงตัว ผมอยากได้ลูกผู้ชาย ส่วนยุ้ยเขาอยากได้ลูกผู้หญิง ก็เลยจะแฝดเลย”
ยุ้ย  “แต่ว่าทีนี้คนเดียวก็ได้นะ”

สรุปได้หรือยังว่าจะมีลูกแฝดมั้ย?
ยุ้ย  “อยากได้แฝด แต่ต้องปรึกษาสภาพร่างกายด้วย ใจเราอยากได้อยู่แล้ว ไปเช็กร่างกายตอนนี้ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่”
ธันน์  “เพราะด้วยความที่ยุ้ยทำงานหนักเล่นละครดราม่า มันไม่มีมนุษย์คนไหนหรอกที่วันหนึ่งมีเรื่องเครียดร้องไห้ได้20ฉาก มันก็เลยไปกดตัวเองด้วย”
ยุ้ย  “ด้วยสภาพร่างกายที่ยังไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ถามว่ากลัวมีปัญหามั้ย ก็กลัวแหละ ก็ปรึกษาหมอ  หมอบอกว่าสำคัญที่สุดต้องไม่เครียดและต้องพักผ่อนเยอะๆ ต้องกินอาหารเยอะๆ กินไข่วันหนึ่งเกือบ10ฟอง ยุ้ยกินพวกนี้น้อยมากเพราะฉะนั้นถ้าตั้งใจจะมีลูกจริงๆ ยุ้ยต้องบำรุงและพักผ่อนเต็มที่จริงๆช่วงนี้เราก็เริ่มออกกำลังกาย เริ่มดูแลตัวเองแล้วค่ะ”

 

ปีหน้าตั้งแต่ต้นปีเริ่มสตาร์ทเลย?
ยุ้ย  “ถ้าพร้อม รอเรื่องงานเพราะว่าตอนนี้ถ่ายละครอยู่ ถ้าตั้งท้องขึ้นมาเดี๋ยวผู้จัดช็อก ก็คิดว่าน่าจะถ่ายเสร็จต้นปี”