"ชาวอ่างทอง" กว่า 300 คน รวมตัวเรียกร้องให้ชลประทานปล่อยน้ำรักษาระบบนิเวศและหล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรหลายพันไร่
20 พ.ย. 2562, 13:24
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 พ.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมคลองรำมะสัก หน้าวัดวังน้ำเย็น หมู่ที่ 1 ตำบลวังน้ำเย็น อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง พบว่ามีกลุ่มชาวบ้านจาก 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลวังน้ำเย็น ตำบลรำมะสัก ตำบลบ้านพราน ตำบลสีบัวทอง ในอำเภอแสวงหา และตำบลยางซ้าย ในอำเภอโพธิ์ทอง ที่มีพื้นที่เกษตรกรรมตลอดทั้ง 2 ฝั่งคลอง จำนวนกว่า 300 คน ได้รวมตัวกันเรียกร้องให้ทางชลประทาน ช่วยปล่อยน้ำมาหล่อเลี้ยงระบบนิเวศที่อาศัยอยู่ในคลองรำมะสัก ที่มีระยะทางยาวกว่า 40 กิโลเมตร เนื่องจากระดับน้ำที่อยู่ในคลองมีระดับลดลงเรื่อย ๆ จนทำให้ฝูงปลานานาชนิด และสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในลำคลอง อาจจะต้องล้มตายและลดจำนวนลงจากวิกฤตการณ์น้ำ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบกับเกษตรกรชาวนาที่ปลูกข้าวจนเริ่มตั้งท้องไม่มีน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าว ส่วนเกษตรกรชาวสวนผลไม้และชาวไร่ ก็ยังได้รับผลกระทบทำให้ผลผลิตออกมาน้อยและอาจจะต้องยืนต้นตาย จึงได้เดินทางมารวมตัวกันเรียกร้องให้ทางชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยปล่อยน้ำมาแก้ไขปัญหาภัยแล้งไม่ให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น อย่างน้อยให้มีน้ำมาหล่อเลี้ยงระบบนิเวศให้มีชีวิตหลงเหลืออยู่ในลำคลอง
ด้านนายวินัย บุญศรี ตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน เปิดเผยว่า ชาวบ้านจากจาก 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลวังน้ำเย็น ตำบลรำมะสัก ตำบลบ้านพราน ตำบลสีบัวทอง ในอำเภอแสวงหา และตำบลยางซ้าย ในอำเภอโพธิ์ทอง มีความเดือดร้อนเรื่องน้ำในคลองรำมะสัก ซึ่งเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว น้ำในคลองรำมะสักไม่เคยแห้งถึงขนาดนี้ แต่ในตอนนี้ระบบนิเวศโดยเฉพาะฝูงปลาที่อาศัยอยู่หน้าวัดต่าง ๆ น้ำในคลองแห้งจนไม่อาจจะอาศัยอยู่ได้ จึงได้รวมตัวกันมาขอวิงวอนไปยังหน่วยงานราชการ หน่วยงานของกรมชลประทานช่วยปล่อยน้ำมาเพิ่ม เพื่อให้ฝูงปลาและระบบนิเวศสามารถอยู่อาศัยได้ ซึ่งคลองรำมะสักแห่งนี้เป็นที่หล่อเลี้ยงระบบนิเวศและพื้นที่เศษฐกิจในการเพาะปลูกทำการเกษตรจำนวนหลายพันไร่ โดยมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนกว่าหลายพันหลังคาเรือน เมื่อระดับน้ำในลำคลองเกิดแห้งขอดลง ที่มารวมตัวกันในวันนี้ไม่ได้มาเพื่อบีบหน่วยงานราชการให้ปล่อยน้ำมาให้เกษตรกรทำการเกษตร แต่เพียงแค่ให้ทำการปล่อยน้ำมาทำการหล่อเลี้ยงระบบนิเวศและเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกไปแล้วบางส่วนเท่านั้น
ทางด้าน นาง ภรภัค โพธิ์งาม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านพราน อำเภอแสวงหา ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ตนเองเกิดมาก็เห็นน้ำในคลองรำมะสักเต็มคลองมาตลอด แต่หลังจาก 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ระดับน้ำในคลองรำมะสัก มีน้ำลดลงทุกปี ซึ่งตนเองเกรงว่าจะกระทบกับระบบนิเวศกับสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในคลอง อาจจะเสียชีวิตล้มตายจนไม่เหลือ โดยชาวบ้านที่รวมตัวกันมาเรียกร้อง เป็นชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในคลองรำมะสักลดลง ทำให้กระทบต่อระบบนิเวศและพื้นที่เกษตรกรรมจำนวนหลายพันไร่ ซึ่งทุกวันนี้ตนเองต้องตกเป็นหนี้กว่าล้านบาท ในการลงทุนปลูกข้าวทำนาไปจำนวน 40 ไร่ และทำสวนมะม่วง จำนวน 20 ไร่ หากระดับน้ำลดลงจนแห้งขอด ชาวบ้านทั้ง 5 ตำบล คงได้รับผลกระทบต้องได้รับความเดือดร้อน แม้กระทั่งหาปลาในคลองมาเลี้ยงชีพก็ยังทำไม่ได้ ทางชาวบ้านทั้งหมดคงเครียดตายเพราะนอนไม่หลับ
ส่วนทางด้านนายสมชายธารินทร์ พ่วงสุวรรณ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอ่างทอง กล่าวว่า เบื้องต้นจากการมารับฟังความเดือดร้อนจากชาวบ้านที่เดินทางมาเรียกร้องทั้ง 5 ตำบล ใน 2 อำเภอ ตนเองได้ทำการประสานไปยังโครงการส่งน้ำชันสูตร ซึ่งเป็นต้นทางในการระบายน้ำลงสู่คลองรำมะสัก ตั้งแต่เมื่อวานนี้ให้ช่วยทำการปล่อยน้ำมารักษาระบบนิเวศ แต่เนื่องจากคลองดังกล่าวเป็นคลองที่ใช้สำหรับส่งน้ำ ประกอบกับเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูแล้งไวกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งทางชาวบ้านอาจจะทราบจากข่าวแล้วว่าในปีนี้จะมีปริมาณน้ำที่จำกัด แต่ตนเองยืนยันว่าปริมาณน้ำที่ปล่อยมาจะเพียงพอต่อระบบนิเวศที่อยู่ในลำคลองรำมะสักแห่งนี้ต่อไป