"ครูตีนักเรียน" นักฟุตบอลเยาวชนหญิง โผล่กราบขอขมาพ่อแม่เด็ก
20 พ.ย. 2562, 19:10
จากกรณีที่ น้อง เอ น.ร.ชั้น ม.5 ร.ร.แห่งหนึ่งและเป็นนักฟุตบอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทย ได้ถูกโค้ชฟุตบอลและใช้ไม้ไผ่ตีอย่างรุนแรง 10 ครั้ง ทำให้ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลแตกที่สะโพกหลายแผล สาเหตุเนื่องจากน้องเอ หนีออกจาก ร.ร.ไปกินข้าวกับเพื่อนนอก ร.ร.เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา พ่อแม่ของน้อง เอ ได้นำตัวน้องเอ ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อ ดำเนินคดีกับครูโหดรายนี้แล้ว ล่าสุด พ่อแม่ของน้อง เอ พร้อมด้วยญาติพี่น้องได้พากันเดินทางมาที่ ร.ร.แห่งนี้ เพื่อที่จะมารับน้อง เอ ไปให้แพทย์ตรวจร่างกายเกี่ยวกับบาดแผลที่โดนตีที่สะโพก แต่ปรากฏว่า ผอ.ร.ร.ได้เชิญพ่อแม่และน้องเอ ขึ้นไปพบที่ห้องทำงาน เพื่อขอรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และได้ทำการเจรจาเพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ โดยมีบรรดาญาติพี่น้องนั่งรออยู่ที่บริเวณหน้าอาคารเรียนภายใน ร.ร. โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปรับฟังการเจรจาด้วยแต่อย่างใด ล่าสุด ผอ.ร.ร.ได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดครูจอมโหด ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 20 พ.ย. 62 นางสุ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี แม่ของน้อง เอ นักฟุตบอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทย เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. ของคืนวันที่ 19 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา ครู ภ. ครูที่ตีลูกสาวของตนอย่างรุนแรง พร้อมด้วยเพื่อนครู จำนวน 4 คน ได้เดินทางมาพบกับตนและครอบครัวที่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี และได้นำเอากระเช้าเครื่องดื่มบำรุงกำลังยี่ห้อหนึ่งมาด้วย โดยครู ภ. ได้เก็บดอกพุทธรักษาข้างบ้านของตน แล้วนำเอาเงินสด จำนวน 5,000 บาท มาใส่ในจาน เพื่อที่จะขอขมาที่ได้ลงโทษน้อง เอ ลูกสาวของตนอย่างรุนแรง แต่ว่าตนไม่ยอมรับการขอขมา โดยให้ครู ภ.ไปขอโทษกับปู่และพ่อของน้อง เอ แทน ซึ่งครู ภ. ได้กล่าวยอมรับว่า ได้ลงโทษน้อง เอ อย่างรุนแรงจริง แต่ว่าไม่ได้ใช้อารมณ์ เนื่องจากว่า น้อง เอ แอบหนีออกจากหอพักไปเที่ยว ซึ่งผิดกฎของทาง ร.ร. ตนได้บอกกับครู ภ.ว่า ลูกสาวของตนทำผิดกฏของ ร.ร.แต่ว่า ครู ภ ก็ไม่ควรที่จะทำโทษน้อง เอ อย่างรุนแรงแบบนี้ และตนไม่ขอรับเงิน 5,000 บาท เนื่องจากว่า ความสูญเสียทางจิตใจของตนและครอบครัวที่น้อง เอ โดนตีเกินที่จะเยียวยาได้ เป็นบาดแผลลึกทางจิตใจของตนและครอบครัว แต่ว่า ครูที่มาด้วยกันได้ขอให้ตนและครอบครัวยอมรับเงินเอาไว้โดยอ้างว่า เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องเดินทางไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้ตนและครอบครัวต้องรับเงินเอาไว้ และได้พูดถึงความปลอดภัยของน้อง เอ ว่า จะโดนลงโทษแบบนี้อีกหรือไม่อย่างไร ซึ่งครู ภ กับคณะที่มาทุกคนยืนยันว่า จะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด ส่วนเรื่องการถอนแจ้งความกับพนักงานสอบสวนนั้น จะต้องรอหารือกับครอบครัวก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ทางด้าน ผอ.ร.ร.ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนได้ให้ ผช.ผอ.ร.ร.และฝ่ายปกครอง นำตัวครู ภ. ไปขอโทษพ่อแม่ของน้อง เอ ส่วนการที่พ่อแม่ของน้อง เอ จะนำตัวน้อง เอ ย้ายไปเรียนที่อื่นนั้น ตนขอให้น้อง เอ เรียนที่ ร.ร.นี้ต่อไป โดยตนจะดูแลอย่างดีเหมือนกับลูก ๆ น.ร.ทุกคน จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก ซึ่งพ่อแม่น้อง เอ ก็รับทราบเข้าใจกันแล้ว ส่วนครู ภ. นั้น ตนได้รับรายงานจากคณะกรรมการสอบสวนว่า ได้ทำการสอบสวนครู ภ.เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยตนจะสั่งลงโทษว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และจะไม่ให้ครู ภ.ทำหน้าที่ครูที่ปรึกษาอยู่ที่ห้องเรียนเดิม ตนจะสั่งย้ายครู ภ.ให้ไปทำหน้าที่ครูที่ปรึกษาประจำห้องเรียนอื่น เพื่อไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการดูแลน้อง เอ อีกต่อไป ส่วนด้านคดีความนั้น เมื่อพ่อแม่ของน้อง เอ พร้อมก็จะมาทำการถอนแจ้งความ ซึ่งเรื่องนี้ ตนได้ประสานงานกับทุกฝ่าย และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อความเป็นธรรมทุกฝ่ายอย่างเต็มที่