ครม.ไฟเขียว ยก "โคราช" เป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก
21 พ.ย. 2562, 10:51
วันที่ (19 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้เสนออุทยานธรณีโคราช เข้ารับการรับรองเป็นอุทยานธรณีโลก ขององค์การยูเนสโก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยจะต้องส่งใบสมัครภายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ทางประเทศไทยได้เตรียมความพร้อมในทุกด้าน
สำหรับพื้นที่อุทยานธรณีโคราช มีเนื้อที่ประมาณ 3,167 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง เฉลิมพระเกียรติ ขามทะเลสอ สูงเนิน และสีคิ้ว ซึ่งมีความเหมาะสมในการเป็นสมาชิกพื้นที่อุทยานธรณีโลกเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีแหล่งธรณีวิทยา แหล่งธรรมชาติ และแหล่งวัฒนธรรม รวม 35 แหล่ง โดยเฉพาะแหล่งธรณีวิทยาที่มีคุณค่าระดับนานาชาติ มากถึง 4 แห่ง ได้เเก่
1.แหล่งอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหินไพลสโตซีนตอนต้น แห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
2.แหล่งไดโนเสาร์อิกัวโนดอนต์พันธุ์ใหม่ของโลก 3 สกุล และ 3 ชนิด รวมทั้งเต่าและจระเข้พันธุ์ใหม่ 1 สกุล 2 ชนิด
3.แหล่งฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์มากที่สุดในโลก พบถึง 10 สกุล จาก 55 สกุล ที่พบทั่วโลก
4.แหล่งฟอสซิลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอายุ 200,000 ปี พบ 15 ชนิด ซึ่งมีความหลากหลายชนิดที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
น.ส.รัชดา กล่าวว่า การเป็นอุทยานธรณีวิทยาขององค์การยูเนสโก ต้องเป็นพื้นที่ที่ประกอบด้วยแหล่งที่มีคุณค่าทางธรณีวิทยา โบราณคดี นิเวศวิทยา และวัฒนธรรม ซึ่งปัจจุบันนี้ ทั่วโลกมีอุทยานธรณีของยูเนสโกแล้ว 147 แห่ง ใน 41 ประเทศ
สำหรับในภูมิภาคอาเซียนมีจำนวน 8 แห่ง ใน 4 ประเทศ สำหรับประเทศไทย มีอุทยานธรณีสตูล ที่ได้ขึ้นทะเบียนขององค์การยูเนสโกแล้ว อย่างไรก็ตาม การเป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในด้านแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญมากขึ้น และคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้การเป็นสมาชิกจะต้องชำระเงินค่าสมาชิกรายปี ปีละประมาณ 56,000 บาท ซึ่งหลังจากสมัครไปแล้วทางองค์กรยูเนสโกจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาประเมินความพร้อมและความเหมาะสมต่อไป
ภาพ พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน