หลังจากที่เกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งจังหวัดตรัง ต้องประสบกับปัญหาราคายางตกต่ำต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาหลายปี จนสร้างความเดือดร้อนให้อย่างมาก ซึ่งทุกคนต่างก็ตั้งความหวังกับรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากจังหวัดตรังเอง ก็มี ส.ส.ทั้งจากพรรคพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ร่วมรัฐบาล ที่จะช่วยผลักดันราคายางให้สูงขึ้นกว่านี้ ตามนโยบายที่แต่ละพรรคได้หาเสียงเอาไว้นั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคายางในจังหวัดตรัง ก็เริ่มขยับตัวสูงขึ้นแล้ว จากที่เคยตกต่ำลงไปจนเหลือ 3 กิโลกรัม 100 บาท เมื่อก่อนหน้านี้ โดยขณะนี้ยางแผ่นดิบ มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 55 บาท และน้ำยางสด มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท ซึ่งสร้างความดีใจให้กับเกษตรกรชาวสวนยางเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ต้องประสบกับความลำบาก เพราะครอบครัวมีรายได้ลดลง แต่รายจ่ายกลับสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวบ้านบนเกาะสุกร เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของจังหวัดตรัง และต้องเดินทางด้วยเรือมายังฝั่งเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร หรือใช้เวลาในการนั่งเรือประมาณ 20 นาที  ซึ่งแม้จะรู้สึกดีใจต่อราคายางที่ปรับตัวสูงขึ้นล่าสุด แต่สำหรับชาวบ้านบนเกาะสุกร กลับได้ราคายางที่ต่ำกว่าบนฝั่งกิโลกรัมละ 4-5 บาท จึงอยากให้ทางรัฐบาลเข้ามาดูแลในส่วนนี้บ้าง เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันด้านราคา

โดย นายวิชิต เจะสา อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/1 หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะสุกร ซึ่งเพิ่งจะเปิดกรีดในฤดูกาลใหม่มาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าสุดท้ายแล้วชาวบ้านบนเกาะสุกร จะสามารถขายยางได้ราคาดีตามที่มีการประกาศปรับขึ้นล่าสุดหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามักจะถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลางสูง แต่ก็อยากได้ราคายางไม่น้อยกว่ากิโลกรัมละ 60 บาท เหมือนกับชาวบ้านบนฝั่ง

ขณะที่ นายธีระยุทธิ์ อ่อนแท้ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะสุกร กล่าวว่า ชาวบ้านบนเกาะสุกรจะทำสวนยางแตกต่างไปจากที่อื่น โดยแปรรูปเป็นยางแผ่นทั้งหมด แทนที่จะขายเป็นน้ำยางเหมือนกับชาวบ้านบนฝั่ง ซึ่งล่าสุดราคายางยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 45 บาท และหากได้ถึงกิโลกรัมละ 60 บาท ก็คงจะดีมาก แต่ที่ผ่านมาบนเกาะสุกรได้ราคายางต่างจากบนฝั่งมาก เนื่องจากพ่อค้าคนกลางอ้างว่ามีค่าขนส่งสูง