ผู้สื่อข่าว ONBnews ได้รับการเปิดเผยจาก นายสุพจน์ ทักษิณ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/6 หมู่ 6 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร ว่า ตนเองประกอบอาชีพทำรถยกเป็นหลัก ทำให้มีโอกาสได้เดินทางไปในหลายๆ ที่ ได้พบเจออะไรแปลกๆ ใหม่ๆ อยู่เป็นประจำ และสิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นคือข้างทางหรือร้านที่ขายส้มตำไก่ย่างส่วนใหญ่ที่เจอก็จะมีแต่ ไก่ย่าง ไก่หมุน ไก่อบโอ่ง แต่ไม่เคยเห็นมีคนทำไก่อบฟางขายเลย จึงฉุกคิดทำไก่อบฟางขายที่บ้านเราที่ จ.ชุมพร จึงได้นำความคิดที่จะทำไก่อบฟางขาย ไปปรึกษาเพื่อนคือ นายนายนิรุต ชั่งสัจจา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/17 หมู่ 8 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเปิดร้านอาหารอีสานอยู่ริมถนนสายเอเชีย กม.5 หน้าวัดถ้ำขุนกระทิงนอก

นายสุพจน์ กล่าวว่า ซึ่งจากการพูดคุยกัน ก็ได้ข้อสรุปว่า จะลองทำกันดู เพราะดูจากวัตถุดิบต่างๆ ไม่น่าจะมีปัญหา หญ้าฟางที่หาซื้อยาก ก็ไม่ยากอีกต่อไปเพราะชุมพรมีการเลี้ยงปศุสัตว์กันเยอะ ไก่ก็หาซื้อได้ง่ายสะดวกและสดๆ ทุกวัน สถานที่จะเปิดขายก็มีอยู่แล้ว อยู่ริมถนนสายหลักและยังอยู่ไม่ไกลตัวเมืองชุมพรอีกด้วย และตนเองมั่นใจในฝีมือของเพื่อน ที่มีสูตรการหมักไก่และสูตรน้ำจิ้มรสเด็ด ที่เคยลองกินลิ้มรสมาแล้ว

นายสุพจน์ ยังกล่าวว่า หลังจากที่เราทั้งสองเริ่มลองทำกัน โดยวันแรกใช้ไก่เพียง 8 ตัว ก็ไม่พอขาย วันต่อมาเพิ่มไก่ เป็น 15 ตัว ก็หมดอีก ยอมรับว่าตื่นเต้นดีใจ จึงตกลงว่าเพิ่มเป็น 20 ตัว ก็หมดอีกและไม่พอจึงตัดสินใจวันต่อไป ซึ่งเป็นวันที่ 4 เป็น 25 ตัว ก็ไม่เพียงพออีกเช่นกัน แต่ตนพร้อมเพื่อน ก็จะหยุดไว้เพียง 25 ตัวต่อวัน เพื่อจะได้เป็นมาตรฐานของร้านเรา หากจะกินไก่อบฟาง ร้านปืนรถยก ก็ต้องรอลุ้นแบบวันต่อวัน เพราะเราจะไม่ทำค้างจนเย็น เราจะอบตามออเดอร์ที่สั่ง เพื่อให้ลูกค้าได้กินไก่อบฟางร้อนๆ

นายนิรุต หรือ นายดอน เปิดเผยว่า สำหรับสูตรเด็ดโบราณแท้ของเคล็ดลับในการหมักไก่ ให้มีความหอมของเครื่องเทศ คือ จะต้องไม่หวงเครื่อง ซึ่งส่วนผสมที่ใช้ก็จะมี กระเทียม พริกไทย รากผักชี นำมาตำรวมกันให้ละเอียดแล้วนำไปหมักกับไก่ที่เตรียมไว้ ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย ที่สำคัญอีกอย่างคือเพื่อให้ไก่มีกลิ่นหอม ในตัวไก่จะใส่ใบกะเพราและตะไคร้ไปด้วย การหมักไก่ต้องใช้เวลาในการหมักพอสมควรเพื่อให้เครื่องเทศเข้าในเนื้อไก่   

ส่วนการอบไก่ ซึ่งจะต้องเตรียมพื้นที่โดยจะใช้แผ่นสังกะสีกั้นเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า เพื่อไม่ให้ไฟกระจายไปด้านนอก ใช้ขวดแก้วใส่น้ำจะเป็นฐานเสียบไก่ พยุงไม่ให้ไก่ล้ม เสร็จแล้วจึงนำไก่ที่หมักเรียบร้อยแล้วเสียบกับขวดแก้ว การที่ใช้ขวดแก้วก็เพราะความร้อนจากในขวดและนอกขวดจะทำให้เนื้อไก่ระอุ สุกไปทั่วด้านในตัวไก่ ซึ่งขวดก็ยังปิดส่วนที่เสียบตัวไก่ ทำให้กลิ่นเครื่องเทศ ใบกระเพราะและตะไคร้จะอบแทรกเนื้อให้หอมกรุ่นไปทั้งตัว แล้วจึงนำปี๊บมาครอบไว้ โดยต้องกดปี๊บให้สนิทติดดิน ไม่ให้มีช่องลมเข้าไปได้ เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จึงนำฟางมาคลุมให้รอบๆ ตัวปี๊บ และจุดไฟ ระหว่างนั้นก็ค่อยๆ เติมฟางไปเรื่อยๆ และให้ฟางติดให้ทั่วๆ เพื่อที่ไก่จะได้สุกพร้อมๆ กันทั่วทั้งตัว ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็จะได้ไก่ที่สุกเหลืองและมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ซึ่งในแต่ละวันจะใช้ฟางประมาณ 5-6 ก้อนในการอบไก่ 25-30 ตัว ก้อนละ 50 บาท ซึ่งหากเราใช้แก๊สในการอบไก่ ต้นทุนจะถูกกว่าการใช้ฟางแต่จะไม่ได้ความหอมที่สำคัญคือ วิถีชีวิตชาวนาที่สมัยก่อนจะใช้ฟางในการอบไก่ก็จะหายไป คนรุ่นหลังก็จะไม่รู้จักไก่อบฟาง ก็จะเห็นเพียงไก่หมุน ไก่อบโอ่ง

จุดเด่นอีกอย่างของทางร้านนอกจากสูตรการหมักไก่ คือ น้ำจิ้มของทางร้านที่มีให้เลือกถึง 2 สูตรด้วยกันคือ น้ำจิ้มแจ๋ว และน้ำจิ้มซีฟู้ด ส่วนผสมของของน้ำจิ้มแจ๋วของทางร้าน คือพริก ข้าวคั่ว น้ำตาลมะพร้าว น้ำมะขาม น้ำปลา น้ำมันหอย และน้ำกระเทียมดอง นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมรวมกัน สิ่งสำคัญคือพริกและข้าวคั่วจะคั่วเองเพราะจะได้ความหอม ส่วนนำจิ้มซีฟู้ดจะนำพริก กระเทียมมาปั่นรวมกัน และนำมาปรุงรสด้วย น้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา น้ำกระเทียมดองและน้ำมะนาว ซึ่งทางร้านจะใช้มะนาวสดๆ เพราะจะมีความหอมของน้ำมะนาว ที่สำคัญทางร้านจะทำน้ำจิ้มวันต่อวัน เพื่อความสดใหม่

ทำให้ไก่อบฟาง ที่หากินยาก ก็ไม่ยากอีกต่อไป เพียงติดต่อผ่าน เฟซบุ๊ค รถยกชุมพรปืน ท่าแซะ หรือ ดอนไก่อบฟาง หรือโทรทางเบอร์ 087-8844997 คุณสุพจน์ และคุณนิรุตต์ ก็จะมีบริการส่งให้ลูกค้า ในระยะทางไม่เกิน 5 กม.ฟรี วันละ 2 รอบคือ รอบก่อนเที่ยงและรอบ 4 โมงเย็น โดยราคาตัวละ 170 บาท หรือจะมาร้านก็ได้ ร้านจะเยื้องๆ กับศูนย์ไปรษณีย์ชุมพร ขาล่องใต้ ใครที่อยากลองชิมไก่อบฟางเจ้าแรกและเจ้าเดียวของชุมพรมาลองกันได้ อบกันให้เห็นต่อหน้าต่อตา

“รีบมาลอง ไก่อบฟาง ความหอม ความนุ่ม รสชาติของน้ำจิ้มที่เข้ากันพอดิบพอดี”