เพื่อนบ้านเล่านาที "เสียงสับ" ดังลั่นตอน 4 ทุ่ม ! ก่อนพบศพแม่ยัดตู้เย็น
26 พ.ย. 2562, 11:08
จากกรณีข่าวการเสียชีวิตอย่างสะเทือนขวัญ พบศพ น.ส.ยุรีย์ อายุ 42 ปี ถูกฆาตกรรมหั่นศพยัดชิ้นส่วนในตู้เย็น ภายในบ้านพักซอนท่าข้าม 28 เขตบางขุนเทียน กทม. โดยเบื้องต้นมีข้อมูลว่า นายศิระ อายุ 20 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิตเป็นคนลงมือ ก่อนจะยิงตัวเองที่ศีรษะ อาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ภายหลังโซเชียลต่างตั้งข้อสงสัยข่าวฆาตกรรมอำพราง ยัดศพแม่ในตู้เย็นเป็นจำนวนมาก รวมถึงความไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะ นายศิระ เป็นคนถนัดมือซ้าย แต่ใช้มือขวายิงศีรษะ
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ >> แชร์กระหึ่มโพสต์เพื่อนสนิท "กาย" เปิดปมสงสัยเพื่อนถนัดซ้าย ทำไมจับอาวุธมือขวา ไม่เชื่อทำร้ายแม่ยัดตู้เย็น
ล่าสุด (26 พ.ย.62) นางอำพร งามดี เพื่อนบ้านนางยุรีย์ ได้เปิดใจกับ ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี โดยกล่าวว่าทราบนายศิระ เพิ่งตรวจเจอโรคทางประสาท ทางนางยุรีย์ก็ป่วยเหมือนกัน ซึ่งเพื่อนๆ ทราบกันหมด
(นางอำพร เพื่อนผู้ตาย ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี)
ก่อนเกิดเหตุทราบข่าวจากลูกว่า นางยุรีย์ ขาดการติดต่อ จึงชวนเพื่อนๆ เดินทางมาที่บ้าน พอมาถึงเจอนายศิระยืนอาละวาดอยู่หน้าบ้าน และพยายามไล่ ตนกับเพื่อนจึงเดินเข้าไปในบ้าน ก่อนจะพบศพในตู้เย็น
นอกจากนี้ยังพบ ทรัพย์สินของนางยุรีย์อยู่ในกระเป๋านายศิระ คาดว่าลูกชายอาจเตรียมไว้เพื่อหนี รวมถึงอาวุธปืน-ลูกกระสุน จากที่สอบถามเพื่อนบ้านที่ติดกัน ได้ยินเสียงดังประมาณ 4 ทุ่ม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ติดต่อผู้ตายไม่ได้ เป็นเสียงดัง ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก เพื่อนบ้านยังบ่นว่า ทำอะไรกันดึกดื่น โดยเสียงที่ได้ยินน่าจะเป็นเสียงสับกระดูก
(นายโจ๊ก เพื่อนบ้าน ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี)
ทางด้านนายโจ๊ก หนึ่งในเพื่อนบ้านที่เข้าไปในวันเกิดเหตุเล่าว่าก่อนหน้านั้น นายศิระ เปิดผ้าม่านหน้าต่างและต่อว่าเพื่อนบ้านจะมาทำไมเยอะแยะ พูดคล้ายคนเพ้อเจ้อ ตนพบพิรุธคือเสียงปั้มน้ำดังตลอดเวลา กระทั่งพบศพถูกยัดในตู้เย็น นายศิระก็ยืนจ้องตลอด ก่อนจะยิงขมับตัวเองเพื่อปลิดชีพ
(อนุชิต ทองจินดา เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี)
ทางด้านนาย อนุชิต ทองจินดา เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย เผยสภาพศพที่พบถูกหั่นเป็นท่อนๆ ซ่อนในช่องแช่แข็งตู้เย็นชั้น 1 ของบ้าน ยกเว้นส่วนหน้าอกขวาที่หายไป ก่อนจะพบอยู่ในชักโครกห้องน้ำชั้น 2 ของบ้าน ส่วนตัวคาดว่าผู้ตายน่าจะถูกฆาตกรรมเมื่อคืน เพราะไม่พบร่องรอยเลือด ทุกอย่างดูปกติ ไม่มีแม้ร่องรอยการต่อสู้