ยังคงเป็นคดีความที่กำลังได้รับความสนใจจากคนในสังคมอย่างมาก ที่ต่างพากันตั้งข้อสงสัย ต่อกรณีลูกฆ่าแม่ยัดตู้เย็น ว่าจะใช่ฝีมือของผู้เป็นลูกจริง ๆ หรือไม่ โดยคดีสะเทือนขวัญดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในบ้านพัก ในซอยท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. เพื่อนบุกเข้าค้นบ้านจนพบศพ นางยุรีย์ เถาวัลย์ อายุ 42 ปี ถูกแยกเป็นชิ้นส่วน แช่ไว้ในตู้เย็น 5 ส่วน ได้แก่ แขน 2 ข้าง หัว ลำตัว ท่อนล่างตั้งแต่เอวลงไปถึงเท้า 

ที่จากพยานแวดล้อมซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานได้ว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายศิระ สมเดช หรือ กาย อายุ 20 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต ที่เป็นผู้ทำการฆ่า และหั่นศพดังกล่าว โดยต่อมาลูกชายของผู้เสียชีวิตได้ทำร้ายตัวเองด้วยการใช้อาวุธปืนยิงบริเวณศีรษะ ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 

จากเหตุสลดที่เกิด ล่าสุด ด้านทนายความชื่อดัง ทนายอานนท์ เชื้อสัตตบงกช ได้ออกมาแสดงความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับคดีนี้ ระบุว่า  คดีนี้ดูแปลกมาก ทั้งสองคนฆ่ากันเองจริงเหรอ หรือมีคนทำให้ตายแน่ 

ทำไมจากคำให้การผู้พบศพคนแรกฟังดูแปลก ๆ  บอกไปตามหาคนตาย เจอลูกชายบอกแม่ไม่อยู่ แถมใส่ชุดนักเรียน แล้วลูกเอาเวลาไหนลงมือฆ่าหั่นศพ ทั้งที่ใส่ชุดนักเรียน แถมมีการเก็บกวาดบ้านล้างรอยเลือด ล้างมีดสะอาดเรียบร้อยเหมือนปกปิด ทำไมต้องปกปิดทั้งที่อยู่คนเดียว บอกลูกขอเปลี่ยนชุดนักเรียนก่อนยิงตัวเอง แต่ขณะถูกยิงยังอยู่ในชุดนักเรียน ที่สำคัญตามข่าวว่าลูกชายถนัดมือซ้าย แต่นี่ยิงขมับขวายิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ แถมโรคซึมเศร้าปกติไม่ทำร้ายคนอื่นนะ 

คดีนี้อาจมีพลิกกลายเป็นคดีฆาตกรรมอำพรางได้ ทางเดียวต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากกองวิทยาการ ว่าอาวุธมีดที่ลงมือ มีการล้างรอยนิ้วมือออกไปหมดยัง รอยนิ้วมือแฝงในปืน ว่าใครยิงลูกชายกันแน่ 
 

ที่สำคัญ ในศพที่หั่นชำแหละ มีรอยมือใครบนชิ้นส่วนศพหรือไม่ ที่สำคัญ มีดในการสับกระดูกคนขนาดนั้น มันน่าจะมีขนาดใหญ่กว่ามีดทำครัวที่เห็น ใครนำเข้ามา เป็นไปได้มั๊ยว่า อาจมีคนมาสังหารแม่ ทำลายหลักฐานล้างรอยเลือดรอยนิ้วมือ พอลูกชายมาถึงจึงสังหารอีกศพ แล้วยัดปืนใส่โยนความผิดให้ลูกว่าฆ่ากันเอง งานนี้คงต้องรอผลการตรวจพิสูจน์กันก่อนคดีนี้อาจมีพลิกครับ