เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ครม.ไฟเขียว 3 มาตรการกระตุ้นศก.ช่วงปลายปี เน้นดูแลระบบเศรษฐกิจเข้มแข็งทุกส่วน


26 พ.ย. 2562, 17:56



ครม.ไฟเขียว 3 มาตรการกระตุ้นศก.ช่วงปลายปี เน้นดูแลระบบเศรษฐกิจเข้มแข็งทุกส่วน




วันนี้ ( 26 พ.ย.62 ) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2562 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อดูแลระบบเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง ส่งผลดีต่อประชาชนทุกภาคส่วน โดยแบ่งออกเป็น 3 มาตรการคือ 

มาตรการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ประจำปีงบประมาณ 2563 ประกอบด้วย 3 โครงการย่อย ได้แก่ โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระดับหมู่บ้าน ที่จะจัดสรรเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับ A B และ C จำนวน 71,742 แห่งๆ ละไม่เกิน 2 แสนบาท ผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติภายใต้วงเงินรวม 14,348.4 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็กในชุมชน สนับสนุนผู้ประกอบการและส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ เช่น การจัดทำแหล่งเก็บน้ำชุมชน เป็นต้น หรือกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ชุมชนเห็นว่าเป็นประโยชน์โดยรวม ซึ่งมีกรอบระยะเวลาเบิกจ่ายเร็วที่สุดและไม่เกิน 6 เดือน 



โครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท ให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อเป็นค่าลงทุนในการดำเนินกิจการและเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 0.01 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามปกติของ ธ.ก.ส. ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 

โครงการพักชำระหนี้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามความสมัครใจ โดยกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองพักชำระหนี้หรือลดภาระหนี้เงินกู้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้กับสมาชิกที่มีความเดือดร้อนตามแนวทางที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติกำหนด เพื่อให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้ผ่อนคลายภาระการชำระหนี้ที่มีกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสามารถนำเงินส่วนดังกล่าวมาประกอบอาชีพสร้างรายได้ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนและหนี้นอกระบบ ขณะที่ในสัปดาห์นี้กระทรวงการคลังจะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ดึงเงินลงสู่ชุมชนเร็วที่สุด

ส่วนมาตรการที่สองคือ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ผ่านโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ปีการผลิต 2562/63 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร เบื้องต้นต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562 กับกรมส่งเสริมการเกษตรจะได้รับเงินช่วยเหลืออัตราไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 1 หมื่นบาท คาดจะดำเนินการจ่ายเงินได้ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2563 


นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม ในโครงการโดยสนับสนุนต้นทุนการผลิต ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2562/63 พร้อมทั้งขยายระยะเวลาการจ่ายเงินให้เกษตรกรจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2563 เนื่องจากมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562 กับกรมส่งเสริมการเกษตรมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 

มาตรการที่สามคือ ลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย ภายใต้โครงการบ้านดีมีดาวน์ เพื่อเป็นการลดภาระและสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยภาครัฐจะสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ หรือ Cash Back จำนวน 5 หมื่นบาทต่อราย ซึ่งมีเงื่อนไขคือ ผู้เข้าร่วมมาตรการต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อปี และเป็นผู้ที่อยู่ในระบบฐานภาษีอากรของกรมสรรพากร และผ่านเกณฑ์ตามแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยมีระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันพรุ่งนี้  27 พฤศจิกายน 2562 ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563  ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.บ้านดีมีดาวน์.com 

อย่างไรก็ตามจาก 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทางกระทรวงการคลังคาดว่า จะใช้งบประมาณ 2563 ในส่วนของโครงการบ้านดีมีดาวน์ 5 พันล้านบาท และโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท แต่จะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากรวมกว่า 1.44 แสนล้านบาท






Recommend News
















©2018 ONBNEWS. All rights reserved.