เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เหยื่อรวมตัว นำหลักฐานแจ้งความ "บริษัทซื้อขายทองคำแท่ง" โกงเงินทุน


17 มิ.ย. 2562, 19:21



เหยื่อรวมตัว นำหลักฐานแจ้งความ "บริษัทซื้อขายทองคำแท่ง" โกงเงินทุน




เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ชาวบ้านจาก จ.ตรัง และ จ.กระบี่ ประมาณ  20 คน ซึ่งได้ร้องเรียนผ่าน กอ.รมน.ตรัง ได้นำหลักฐานการโอนเงิน หลักฐานการคุยผ่านทางไลน์ เฟซบุ๊ก หลักฐานภาพถ่ายผู้ก่อตั้งบริษัท หลักฐานภาพถ่ายตัวแทนของบริษัท เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.วังวิเศษ จ.ตรัง เพื่อเอาผิดตัวแทนบริษัท และผู้ก่อตั้งบริษัท โกลด์ฟาเธอร์ 1978 จำกัด ซึ่งมีจำนวน 2 คน คือ ดอกเตอร์ลิเดียร์ (ปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล) เป็นประธานบริษัท และ นายชนุตม์ สีสังข์ (ดอกเตอร์เอ) เป็นประธานบริหารฝ่ายการเงิน หลังจากถูกตัวแทนของบริษัท และผู้ก่อตั้งบริษัทโกลด์ฟาเธอร์ 1978 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายทองคำแท่ง โกงเงินทุนและผลกำไรรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ล้าน

โดยทั้งหมดได้นำเงินเก็บมาลงทุนซื้อขายทองคำแท่งหวังทำกำไร ซึ่งแต่ละคนลงทุนตั้งแต่หลักแสนหรือหลายแสนบาท ซึ่งจะมีตัวแทนของบริษัทซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายทองคำ ติดต่อหาสมาชิกร่วมลงทุนทำกำไร ทั้งนี้ ในจังหวัดตรัง กระบี่ ภูเก็ต รวมทั้งสุราษฎร์ธานี จะผ่านตัวแทนบริษัทคนเดียวกัน ชื่อ นางสาวบุศรัตน์ ขันขวา (เปิ้ล) ชาว จ.สุราษฎร์ธานี และมีสมาชิกผู้ช่วยอีกคนคือ นางสาวพรสุดา คลองยวน  โดยชาวบ้านทั้งหมดได้โอนเงินลงทุนผ่านหมายเลขบัญชีธนาคารของตัวแทน 2 คนดังกล่าว และบริษัทดังกล่าวเปิดมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว  ทั้งนี้ ระยะแรกรับทราบจากสมาชิกว่ากำไรดีมาก หลายคนที่ทราบข่าวก็หันมาลงทุนบ้าง  จนบางคนยอมกู้หนี้ยืมสิน บางคนนำเงินเก็บที่มีมาลงทุน เพราะต้องการทำกำไร
        
แต่ปรากฏว่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นต้นมา ทั้งคนที่ลงทุนเก่า และคนที่ลงทุนใหม่ กลับไม่ได้รับกำไรกลับมา และเมื่อทวงถามทุนคืนก็ไม่ได้กลับ แต่กลับได้รับคำตอบหลายประการ ซึ่งใช้คำพูดที่ชาวบ้านไม่ค่อยเข้าใจ เช่น เงินจำนวนมากเกี่ยวพันกับแบงค์ชาติ จึงเบิกทีเดียวไม่ได้ หรือเงินมาแล้วอยู่ในบัญชีดอกเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งมีจำนวน 2 คน แต่ต้องทยอยเบิก ไม่เช่นนั้นจะถูกแบงค์ชาติเอาผิด จะทำให้บริษัทเสื่อมเสีย จะฟ้องร้องกลับ หรือจะจ่ายเงินให้เฉพาะคนที่ทำตามกฎของบริษัทที่ไม่มีการเรียกร้องหรือร้องเรียนใดๆ เท่านั้น และอีกหลากหลายคำอ้าง ทำให้ทุกคนเดือดร้อน เงินกำไรที่ได้จากาการซื้อขายทองก็ไม่ได้ รวมทั้งเงินลงทุนก็ไม่ได้คืน จึงรวมตัวกันร้องเรียนผ่านทาง กอ.รมน.ตรัง
 
โดย กอ.รมน. แนะนำให้ทุกคนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตัวแทนและบริษัท เพื่อให้เอาผิดฐานฉ้อโกง รวมทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์ไม่ให้มีบุคคลอื่นตกเป็นเหยื่ออีก ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังวิเศษ ได้แนะนำให้ผู้เสียหายทั้งหมดกลับไปแจ้งความที่โรงพักท้องที่เกิดเหตุ ส่วนชาว จ.ตรัง 2 คน ที่รับทราบข่าวได้เดินทางมาแจ้งความด้วยรวม 2 คน ความเสียหายรวมกว่า 230,000 บาท ส่วนที่เหลือเชื่อว่ายังมีชาวตรังตกเป็นเหยื่ออีกเป็นจำนวนมาก



นายสมพร อินทรวิเศษ อายุ 53 ปี ชาว ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง กล่าวว่า ใน อ.วังวิเศษ ที่มาพร้อมกันในวันนี้รวม 2 คน คือ ตนเอง กับน้องอีกคนไม่ประสงค์ออกนาม จำนวน 120,000 บาท ส่วนของตนเองได้ลงทุนไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 จำนวนเงิน 160,000 บาท ได้กำไรกลับมาจำนวน 50,000 บาท แต่หลังจากนั้นไม่ได้กลับมาอีกเลย จะถอนทุนคืนก็ไม่ได้ เมื่อทวงถามมา 6 เดือนแล้ว ก็ไม่ได้ กลับได้รับคำตอบว่า ถ้าจะเอาคืนก็ให้ไปฟ้องเอา จึงเข้าแจ้งความในวันนี้ เพื่อต้องการเอาทุนคืนเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่ายังคนที่ตกเป็นเหยื่ออีกมากในหลายจังหวัดและตามเกาะต่างๆ

ด้าน นางสาวณัฐฐา วิมลกลาง ชาว จ.กระบี่ กล่าวว่า บริษัทดังกล่าวเปิดมาประมาณ 2 ปีแล้ว ซึ่งผู้ที่มาในวันนี้ได้รับการติดต่อเข้าเป็นสมาชิกโดย นางสาวบุศรัตน์ ขันขวา (เปิ้ล) ชาว จ.สุราษฎร์ธานี เป็นหัวหน้ากลุ่ม และมีสมาชิกผู้ช่วยอีกคนคือ นางสาวพรสุดา คลองยวน เป็นรองหัวหน้ากลุ่ม ซึ่งลักษณะการบริหารงานของกลุ่มก็จะมีตัวแทนหลักที่เหลือก็จะแบ่งเป็นสายๆ มีลูกทีมเป็นสมาชิกแตกย่อยไปเป็นสายๆ โดยทั้งหมดนี้เป็นสายเดียวกัน จะโอนเงินลงทุนผ่านหมายเลขบัญชีธนาคารของ นางสาวบุศรัตน์ และนางสาวพรสุดา
        
สำหรับคนที่ลงทุนระยะแรกได้รับผลกำไรดีมาก เช่น ลงทุน 10,000 บาท ซื้อทองคำแท่งละ 1,000 บาท จะได้รับกำไรกลับมา 3,000 บาท หรือจะลงทุนซื้อกี่แท่งก็ตาม กำไรขึ้นอยู่กับราคาทองคำวันนั้นๆ ซึ่งจะมีการคืนผลกำไรซื้อขายมาให้ทุก 15 วัน คือ วันที่ 16 และ 26 ของทุกเดือน แต่นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นช่วงหลังซึ่งมีคนลงทุนกันมากขึ้น กลับไม่มีการคืนผลกำไร และไม่มีการคืนเงินลงทุนคืน แม้จะมีการทวงถามกันมายาวนาน กลับได้รับการปฏิเสธอ้างเหตุผลต่างๆ นาๆ เช่น อ้างแบงค์ชาติ อ้างเบิกคราวเดียวกันไม่ได้ ถูกแบงค์ชาติเพ่งเล็งตรวจสอบ จะถูกอายัด หรือเงินเข้าแล้วอยู่ในบัญชีของดอกเตอร์เจ้าของบริษัท เป็นต้น พร้อมถูกข่มขู่จากทางบริษัทว่า หากแจ้งความ มีการร้องเรียน หรือถ้าทำให้บริษัทเสื่อมเสีย หรือทำเขาล่าช้าในการเบิกจ่ายเงิน จะถูกแจ้งความกลับ

ส่วน นายณัฐพล คมขำ อายุ 32 ปี ชาว จ.กระบี่ กล่าวว่า ส่วนของพวกตนโอนเงินทุนเข้า นางสาวพรสุดา ซึ่งต่อเดือนประมาณ 4 ล้านบาท ซึ่ง นางสาวพรสุดา ก็ให้ความร่วมมือพร้อมให้หลักฐานมาว่า เมื่อเขารับโอนเงินเข้ามาจะโอนเงินต่อไปเข้า นางสาวบุศรัตน์ ทุกครั้ง ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมได้ตั้งนโยบายใหม่ว่า ถ้าเราลงทุนไป ทางบริษัทจะเก็บทุนไว้กับเขา 50% เราจะได้กำไร 50% ซึ่งใน 50% แรกต้องเก็บไว้ในบริษัท และต้องเลย 1 ปี จึงจะถอนทุนคืนจากบริษัทได้ ส่วนของตนเองลงทุนเมื่อเดือนธันวาคม 2561 จำนวน 300,000 บาท แต่ยังไม่ได้กำไรมาเลย ทวงถามไปนานแล้ว แต่ไม่ได้ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ในหลายจังหวัด คาดความเสียหายโดยรวมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จึงรวมตัวกันจะมาแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งหลังจากนี้จะเข้าแจ้งความที่ สภ.เกิดเหตุต่อไป และอยากให้ผู้เสียหายคนอื่นๆ ออกมาแจ้งความด้วย โดยทั้งหมดแค่อยากได้เงินทุนคืนเท่านั้น
 

 


 

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.