สมชาย ศรีสกุลภิญโญ ผู้บุกเบิกเฟอร์นิเจอร์แบรนด์”สตาร์มาร์ค”
18 มิ.ย. 2562, 10:49
วันที่ 17 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า ณ ร้านฮ่องกง นู้ดเดิ้ล อาคารบี ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่าได้มีโอกาสนั่งทานก๊วยเตี๋ยวเป็ดพร้อมกับพูดคุยกับนายสมชาย ศรีสกุลภิญโญ ผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์มาร์คแมนูแฟคเชอร์ริ่ง จำกัดจากเดิม หจก.เพชรเกษมเครื่องเรือน เจ้าของผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์หลุยส์ราคาไม่แพง ที่ใช้ในฉากถ่ายละครดังๆ หลายเรื่อง เมื่อ 20 ปีก่อน โดยเขาเป็นผู้ก่อตั้งแผนกงานต่างๆ และระบบการทำงานในบริษัท หลังจากยกระดับฐานการผลิตเป็นโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาครบนพื้นที่กว่า 70 ไร่ เช่นแผนกไฟเบอร์กลาส แผนกสีโพลี แผนกเหล็ก แผนกกระจก แผนกสแตนเลส แผนกงานตกแต่งภายใน แผนกซ่อมบำรุง และได้ขยายบริษัทเข้าสู่ตลาดระดับภูมิภาคตามทิศทางอุตสาหกรรมโลก ด้วยการก่อตั้งแผนกติดต่อต่างประเทศสาขาประเทศจีน
หนึ่งในความภาคภูมิใจมากในผลงานที่เขาเป็นผู้บุกเบิกคือการผลิตชุดครัวไฟเบอร์กลาสแห่งแรกของทวีปเอเชียซึ่งยังคงเป็นที่แพร่หลายโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนั้นยังเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์สไตล์หลุยส์ที่มียอดขายที่สูงสุดในประเทศไทย
“ใครไปเที่ยวเดินชมงานโฮม-เฟอร์นิเจอร์ ต่างๆ จะพบเห็นเฟอร์ฯ สไตล์หลุยส์ราคาไม่แพงสามารถจับจองซื้อหาเป็นเจ้าของได้ นั่นแหละผลงานผลิตจากโรงงานของผม ที่คิดค้นนวัตกรรมสินค้าทำให้ต้นทุนไม่สูง ราคาให้ลูกค้าคนไทยเอื้อมถึงกัน” สมชายกล่าว
นอกจากนั้นเขายังได้ก่อตั้งบริษัทโมเก้น (ประเทศไทย)จำกัด ในปี พ.ศ.2553 บริษัทลิฟวิ่ง แอท โฮม จำกัด ในปี พ.ศ.2545 และบริษัทไอดอล ซิสเทิม จำกัด ในปี พ.ศ.2556
สมชายบอกสมัยตอนเป็นเด็กเรียนน้อย จบแค่ ม.1โรงเรียนจิตรพันธ์ศึกษา มีพี่น้องท้องเดียวกัน 8 คน ตัวเองเป็นคนที่สาม คุณพ่อเอ็กจือ แซ่เตีย และคุณแม่บ๊วย ศรีสกุลภิญโญ ทำมาหากินด้วยการไปซื้อตู้ไม้จากย่านบางโพเอามาทำสีใส่กระจกติดมือจับฝาตู้ แต่ตั้งขายตามริมถนนรอให้คนมาซื้อหาเอาไปใช้ ขณะนั้นทำงานอยู่กับคุณพ่อซึ่งเป็นตึกแถวคูหาเดียวชื่อร้านเตียเอ็กเซ้ง เฟอร์นิเจอร์ พอเลิกเรียนกลับบ้านก็จะมาช่วยพ่อแม่ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดเพื่อไปเล่นกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน จนอายุได้ 15 ปี นายสมชายก็เป็นหัวหน้าช่างใหญ่รู้งานหมดทุกด้านการทำเครื่องเรือน ทั้งงานพ่นสี ตัดกระจก เจาะมือจับ และประกอบตู้ คิดว่าถ้าเรานั่งรอให้คนมาซื้ออย่างเดียวแบบนั้นคงจะขายได้ยาก เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีคนซื้อไม่มีกำลังทรัพย์ จึงขออนุญาตคุณพ่อแม่ออกฝึกงานด้านตกแต่งภายในบริษัทแห่งหนึ่งย่านสุทธิสาร ซึ่งรับเขาเข้าไปทำทันที เขาใช้เวลาในการศึกษาดูงานอยู่เพียง 1 เดือนก็รู้ลู่ทางหมดทุกอย่าง จึงขอลาออกกลับมาเปิดร้านเองในปี พ.ศ.2520 ตั้งชื่อร้าน “เพชรเกษมเครื่องเรือน”( ซึ่งเป็นต้นกำเนิด บริษัทสตาร์มาร์คแมนูแฟคเชอร์ริ่ง จำกัด ในปัจจุบัน) โดยเช่าตึก 2 คูหาเป็นโชว์รูม เป็นผู้จัดการร้าน ด้วยวัยเพียง 18 ปี มีช่างไฟเบอร์ 3 คน ช่างไม้ 9 คน รวมทั้งหมด 12 คนเป็นลูกน้องกินเงินเดือนที่นายสมชายเป็นคนกำหนดให้ผลิตสินค้า ตามที่ลูกค้าต้องการมาเลือกหาซื้อไปใช้งานร้านเพชรเกษมเครื่องเรือน ได้รับการยอมรับว่าเป็นบริษัททีผลิตชุดครัวไฟเบอร์กลาสแห่งแรกในทวีปเอเชีย เมื่อปี พ.ศ.2525 นายสมชาย ได้มีโอกาสนำชุดครัวไฟเบอร์กลาสไปออกงานแสดงสินค้า 200 ปีกรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยเงินทุนที่เก็บจากน้ำพักน้ำแรงก้อนแรก นำเอาผลิตภัณฑ์ของทางร้านไปโชว์ที่สนามกีฬาหัวหมาก ทำให้ชุดครัวเป็นที่แพร่หลายมาถึงปัจจุบันด้วยเหตุผลที่ว่าชุดครัวสตาร์มาร์คเป็นชุดครัวที่มีความทนทานกันน้ำโดยใช้วัสดุที่ผสมไฟเบอร์กลาสที่ได้ประยุกต์มาจากเรือยอรช์ไฟเบอร์กลาสมาเป็นส่วนประกอบตัวท๊อปและอ่างล้างจาน ที่มีลักษณะเด่นเป็นชิ้นเดียวกันไร้รอยต่อ ทำให้น้ำไม่รั่วซึม ซึ่งสมัยก่อนตัวท๊อปและอ่างล้างจานจะเป็นไม้อัดและสแตนเลส เมื่อผ่านการใช้งานไป 2 – 3 ปี ท๊อปไม้อัดจะเน่าเปื่อยผุสลายจากความชื้นตามรอยต่อจุดต่างๆ จึงเป็นที่มาที่ทำให้ชุดครัวไฟเบอร์กลาสของสตาร์มารค์เป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แรงบันดาลใจในการประยุกต์สร้างสรรค์ท๊อปครัวไฟเบอร์กลาสเกิดจากการที่เขาได้ไปเที่ยวทะเลที่พัทยาเป็นครั้งแรกและได้ไปเห็นเรือยอรช์ ริมหาดจึงเกิดไอเดียในการนำมาประยุกต์เป็นวัสดุทำท็อปครัว
ต่อมาเมื่อธุรกิจอิ่มตัวเขาคิดจะได้ศึกษาดูงานต่างประเทศเพื่อหาแนวทางปรับนวัตกรรมใหม่ๆ มาต่อยอดผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์เพิ่ม มีโอกาสไปศึกษาดูงานอินเตอร์ซูม ที่เยอรมันนี และท่องเที่ยวเดินทางหาโอกาสไปดูเฟอร์นิเจอร์ของประเทศต่างๆ แถบยุโรป สเปน อิตาลี เบลเยี่ยม ก่อนจะนำเอาศิลปะสไลต์หลุยส์ที่งดงามกลับมาประยุกต์หาวิธีการผลิตจนสามารถผลิตได้ด้วยต้นทุนต่ำ จนขายได้ในปริมาณมากในตลาดประเทศไทย จนเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์หลุยส์ที่มียอดขายที่สูงสุดในประเทศไทย เมื่อปี 2529 จนถึง ปี พ.ศ.2541 ซึ่งยุคนั้นมีละครทีวีที่คนนิยมชม หลายเรื่อง เช่น บ้านทรายทอง จำเลยรัก และเรื่องอื่นอีกมากมาย ได้ใช้คฤหาสน์และบ้านลุกค้าของบริษัทสตาร์มาร์คฯใช้ถ่ายทำละคร ทำให้ได้ผ่านสู่สายตาผู้บริโภคจำนวนมาก ลูกค้าแนะนำกันปากต่อปาก สินค้ายิ่งขายดีเทน้ำเทท่า ปี พ.ศ.2541 บริษัทฯ ก็ประสบปัญหาวิกฤติต้มยำกุ้ง แต่ด้วยความคิดที่จะต้องสู้ไปให้ได้ จึงนำเอาชุดครัวของบริษัทฯ ไปออกงานแสดงสินค้างานอินเตอร์ซูม ประเทศเยอรมัน แม้ติดขัดด้านปัจจัยการขนส่ง การส่งออกตอนนั้นจึงไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ได้สร้างความภาคภูมิใจตรงที่ชุดครัวของสตาร์มาร์คได้รับรางวัลนวัตกรรมชุดครัวด้วยการออกแบบจากวัสดุไฟเบอร์กลาสและดีไซน์ชุดครัวในคอนเซ็ป 360 องศาจากฝีมือคนไทยและได้รับการยกย่องจากผู้จัดงานว่าเป็นบริษัทแรกในทวีปเอเชียที่ได้รับการคัดเลือกให้นำสินค้าเข้าแสดงในงานอินเตอร์ซูม(Interzum)
เมื่อกลับมาประเทศไทยก็ได้รับการติดต่อจากบริษัทโฮมโปรซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายวัสดุตกแต่งบ้านให้เปิดห้องโชว์สินค้าร่วมกับทางบริษัท ทำให้สตาร์มาร์คเป็นที่รู้แพร่หลายมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น จากวิกฤติต้มยำกุ้งทำให้บริษัทที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆ ต้องล้มปิดตัวลง กลายเป็นโอกาสให้สตาร์มาร์คได้มีโอกาสเสนองานให้บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์เป็นครั้งแรก
จากผลงานครั้งที่ไปแสดงในงานอินเตอร์ซูม เป็นเสมือนใบเบิกทางให้สตาร์มารค์ได้รับโอกาสตอบรับร่วมทำสัญญาโครงการเป็นครั้งแรกโดยเริ่มจาก “โครงการบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย” ซึ่งเป็นรูปแบบงานโครงการบ้านใหม่ของแลนด์แอน์เฮ้าส์ ในคราวนั้นได้ส่งผลให้บริษัทสตาร์มาร์คฯเติบโตเรื่อยมาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะผู้ผลิตชุดครัวไฟเบอร์กลาสในวงการตลาดชุดเฟอร์นิเจอร์ครัวในเมืองไทยภายในระยะเวลา 33 ปี นายสมชายได้ขยายกิจการฐานการผลิต การจ้างงาน รวมพื้นที่มากกว่า 70 ไร่ และเรียนรู้สายงานการก่อสร้างและออกแบบอาคารโรงงานก่อสร้าง อาคารสำนักงานและโชว์รูม ด้วยตนเองจนทำให้ปัจจุบันบริษัทสตาร์มาร์คฯได้ขยายตัวและมีบุคลลากรในองค์กรมากว่า 3,000 คน มียอดขายรวมกว่า 2,000 ล้านบาทในปี พ.ศ.2558 และเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการเฟอร์นิเจอร์จนถึงปัจจุบันนี้