ปิดล้อมไล่ล่า "แก๊งโจรอ้วนผอม" ทิ้งรถวิ่งหนีเข้าป่าพบปืนยาไอซ์
18 มิ.ย. 2562, 12:01
เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 18 มิย. 62 ที่ผ่านมาร.ต.อ.ประยงค์ หม่อมวงค์สุวรรณ รองสารวัตรสอบสวน สภ. สระบัว ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ191 มีเหตุคนร้าย 2คนแอบเข้ามาลักรถจยย. ที่จอดอยู่หน้าบ้านเลขที่ 190 ม.9 บ้านคลองร่วม ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังได้รับแจ้งรายให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น
จากน้้นรุดตรวจสอบที่ บ้านหลังดังกล่าวพร้อม ชุดสืบสวน นายสมคิด เกิดผล อายุ 39 ปี พี่ชายนายสมควร เกิดผล กล่าวว่าขณะเกิดเหตุเวลา 00.00 น.ขณะที่น้องชายตนนอนหลับ อยู่ในบ้านได้ยินเสียงคล้ายคนกำลังเข็นรถออกจากชายคาบ้านจึงรีบลุกขึ้นมาขณะเดียวกับปวดฉี่ มองออกมาดูที่ถนนคอนนกรีตเห็นชาย 2 คน รูปร่างอ้วนผอมกำลังเข็นรถจยย.ยามาฮ่าสีขาว ทะเบียน1กฌ509 ปราจีนบุรี ของตนออกไปจึงตะโกนให้เพื่อน บ้านช่วย โจรอ้วนผอมตกใจรีบวิ่งหนีไป น้องชายกับเพื่อนบ้านจึงวิ่งตามไป ตนโทร.แจ้งตำรวจ ต่อมากำลังตำรวจปิดล้อมกลางทุ่งนาพร้อมดำลังกู้ภัยสัจจกบินทร์บุรี 20 นายค้นหาแต่ไม่พบตัว
กระทั่งเวลา 02.30 น. มีรถจยย.ยามาฮ่าแบบชายสีน้ำเงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบีบน วิ่งเปิดไฟผ่าหมากวิ่งไปมาสองรอบจึงสกัดจับแต่รถคันดังกล่าว วิ่งหนีออกมาถนนสายหนองคล้า-สระบัว 2 รอบ เมื่อจวนตัวคนขับทิ้งรถแล้ววิ่งหนีเข้าป่าข้างทาง ตำรวจได้ตรึงกำลังไว้กระทั่งรุ่งเช้า ได้ระดมกำลังลังตำรวจและอสตร.ชาวบ้านกู้ภัย 20 นายกระจายตรวจค้นป่ายูคา พบแต่ร่องรอยเท้าทางนายสมควร เกิดผล อายุ 37 ปี เจ้าของรถ ทางเจ้าตัวอยากฝากบอกถึงคนร้ายกลุ่มนี้ให้เลิกลักขโมยของคนอื่นได้แล้ว ตนให้อภัยถ้ารู้ว่าทำผิดแล้วกลับตัวกลับใจเป็นคนดี
และเวลา 06.00 น. พ.ต.อ.สมพรอินเหลา ผกก.รองผกก.สว.สืบสวนพร้อมกำลัง วางแผนเดินเท้าปูพรมค้นหาในป่ายูคาลิปตัสใช้เวลา 30 นาทีไม่พบตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน ขณะเดียวกันผกก.พร้อมกำลังเดินสำรวจพบหมวกกันน็อคของคนร้ายทิ้งไว้ ถัดไปพบกระเป๋าสะพานสีน้ำตาล ทิ้งไว้ข้างทางในป่ายูคาลิปตัส จึงให้ร้อยเวรมาตรวจสอบกระเป๋าดังจากการตรวจค้นภายในกระเป๋าพบยาไอ 2 ซองซีลและถุงใสจำนวนหนึ่ง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 1กระบอก พร้อมบรรจุกระสุน 1 นัดจึงเก็บไว้ตรวจสอบหาตัวคนร้ายต่อไป คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันขณะนี้ตำรวจรู้ตัวแล้วว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวเป็นใคร สืบหาตัวไม่ยากเพราะมีหลักฐานทั้งรถจยย.กับโทรศัพท์มือถือที่ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ...