วันที่ 30 พ.ย. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า บรรยากาศโดยทั่วไปยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องจากช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก สูงขึ้นจากในช่วงเช้าอย่างรวดเร็ว โดยมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งในช่วงเช้าอยู่ในระดับ 20 ซ.ม.กลายเป็น 50 ซ.ม. ซึ่งเป็นผลพวงจากมวลน้ำในพื้นที่ อ.แว้ง ไหลลงมาสมทบในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนขยายวงกว้างเป็น 5 ชุมชน คือ ชุมชนท่าประปา ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนท่ากอไผ่ ชุมชนหัวสะพานและชุมชนโปฮงยามู ซึ่งตั้งอยู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก มีบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ริมตลิ่งถูกน้ำท่วมขัง ประมาณ 80 ครัวเรือน โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 30 ถึง 50 ซ.ม. ชาวบ้านเริ่มใช้เรือพายในการเดินทางแทนรถยนต์และรถ จยย. เมื่อมีกิจธุระจำเป็นที่จะเดินทางเข้าสู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก

 

 

 

 

แต่ถึงอย่างไรก็ตามสภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนในครั้งนี้ ส่วนใหญ่ประชาชนยังคงพักอาศัยอยู่บนชั้นสองเพื่อหนีระดับน้ำที่ท่วมขัง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากในทุกปี ที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้เตรียมการรับมือไว้แล้ว

ส่วนมาตราการณ์ในการช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังนั้น ล่าสุด นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก พ.อ.รุ่งโรจน์ อนันตโท ผบ.ร.151 ได้ร่วมกันนำเรือท้องแบน จำนวน 2 ลำ พร้อมนำเต็นส์มากางเปิดเป็นศูนย์ช่วยเหลืออุทกภัย ที่บริเวณหน้าทางเข้า สนง.ประปาส่วนภูมิภาค อ.สุไหงโก-ลก พร้อมกำลังพลจำนวนหนึ่ง เตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที หากเกิดสภาวะน้ำท่วมสูงฉับพลัน พร้อมทั้งได้ร่วมกับ พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก นางสุชาดา พันธุ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ขึ้นเรือท้องแบบตรวจสภาพน้ำท่วมเพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือ โดยได้ถือโอกาสแจกยารักษาโรคและน้ำกัดเท้า เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชน เริ่มทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างต่อเนื่อง