วันนี้ ( 2 ธ.ค.62 ) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ได้เดินทางมาสำรวจความเสียหายบริเวณชายหาดชลาทัศน์ เนื่องจากถูกคลื่นซัดกัดเซาะ บริเวณชายหาดจนได้รับความเสียหาย

โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้นำคณะ ประกอบด้วย นายอำพล พงศ์สุวรรณ รอง ผวจ.สงขลา นายสมศักดิ์ ตัณติเศรณี นายกเทศบาลนครสงขลา นอ.เมืองสงขลา และ ปภ.สงขลา ลงพื้นที่เพื่อทำการสำรวจความเสียหาย บริเวณแนวชายหาดชลาทัศน์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรง กัดเซาะต้นสนขนาดใหญ่บริเวณชายหาดล้มพังลงมา แบบถอนรากถอนโคนกองอยู่บริเวณชายหาดหลายสิบต้น อีกทั้งแนวสันทรายบริเวณชายหาดก็โดนคลื่นกัดเซาะจนเป็นรอยเว้าตลอดแนวชายหาดอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน

มท.2 ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เทศบาลนครสงขลา ร่วมกับจังหวัดสงขลาได้ลงพื้นที่ที่ถูกคลื่นกัดเซาะชายฝั่งบริเวณหาดชลาทัศน์ ทำให้ต้นสนขนาดใหญ่ ซึ่งมีอายุยาวนานถูกโค่นล้ม ทำให้เห็นว่าปีนี้คลื่นกัดเซาะรุนแรงกว่าปกติ ส่วนสาเหตุหลักนั้นเป็นอย่างไรจะต้องพิจารณากันต่อไป ว่ามาจากอะไร แต่ขณะนี้ทางด้านทิศใต้ของหาด กำลังมีการเคลื่อนย้ายดิน จากฝั่งแหลมสนอ่อนมาเพิ่มเติม ซึ่งในทิศใต้ของหาดชลาทัศน์ได้มีการปรับปรุงพอสมควร และการกัดเซาะบริเวณนี้จะต้องเพิ่มทราย เพื่อรักษาสภาพให้คงเดิม ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น อบจ.สงขลา เทศบาลนครสงขลา หรือหน่วยงานภาคอื่น ๆ รวมถึงภาคเอกชน ที่จะช่วยกันรักษาต้นสน โดยในขณะนี้มีความเสี่ยงมากที่จะถูกคลื่นกัดเซาะอีก ในระยะแรกจะนำดิน หรือวัสดุอย่างใดอย่างหนึ่งมาป้องกัน มิให้เกิดการเสียหายมากกว่านี้ เพื่อรักษาธรรมชาติให้ได้มากที่สุด เพราะมีความเสี่ยงที่ต้องเจอกับฤดูมรสุมอีก 2 เดือน ในพื้นที่ภาคใต้

ดังนั้นจึงจะต้องทำทุกวิถีทางที่จะรักษา ภูมิทัศน์เหล่านี้เอาไว้ให้ได้ นอกจากนี้ ในช่วงมรสุมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ใช้ความระมัดระวัง เเละหลีกเลี่ยงการสัญจรทางน้ำ หรือการทำประมง โดยเฉพาะพี่น้องที่อาศัยอยู่บริเวณติดริมชายหาดต่าง ๆ ในฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะในภาคใต้ขณะนี้ ไม่ควรลงเล่นน้ำ ซึ่งก็ต้องมีการติดตามสถานการณ์คลื่นอย่างใกล้ชิด ว่าลมมรสุมได้เข้ามาในพื้นที่หรือไม่

นิพนธ์ กล่าวต่อว่า ได้ประสานขอความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และเทศบาลนครสงขลา ในการนำรถแบ็คโฮคอยาว พร้อมรถบรรทุก และเจ้าหน้าที่กองช่างจาก อบจ.สงขลา มาทำการรื้อถอนต้นสนที่ล้ม และปรับแต่งภูมิทัศน์บริเวณชายหาดที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นกัดเซาะ และ ทางกระทรวงมหาดไทยได้สั่งให้เตรียมพร้อมในพื้นที่ภาคใต้ ขณะนี้ในทุกจังหวัด โดยให้จังหวัดมีการเตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้แจ้งประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทุกพื้นที่แล้ว ซึ่งทราบว่า จังหวัดนราธิวาส (เทศบาลเมืองสุไหงโกลก) เป็นพื้นที่ที่รับน้ำจากหลายส่วน และได้มีหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ถึงสถานการณ์คลื่นลมมรสุมอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากรและเครื่องจักร เพื่อรับมือกับสถานการณ์อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ หากเกินความสามารถของท้องถิ่น จังหวัด หรือ อบจ. กระทรวงมหาดไทยจะเข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ทันที