วันนี้ ( 5 ธ.ค. 62 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมเพลินพนา อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หมู่ 4 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) (ผอ.สบอ.3) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นวิทยากรบรรยายกฎหมาย ตามโครงการบรรยายพิเศษ เรื่องกฎหมายอุทยานแห่งชาติ ฉบับใหม่ 2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่ วันที่ 25 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา

โดยมี นายปรยุษณ์ ไวว่อง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในสังกัด สบอ.3 (บ้านโป่ง) กว่า 100 คน ให้การต้อนรับและร่วมรับฟังการบรรยาย

ทั้งนี้ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยภายหลังว่า วัตถุประสงค์ในการบรรยายในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยกรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงฯ อธิบดีกรมอุทยานฯ ที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติฉบับใหม่ ให้เจ้าหน้าที่มีความเข้าใจในกฎหมายฉบับใหม่ให้ถ่องแท้ สามารถนำไปถ่ายทอดต่อให้กับประชาชนในท้องถิ่น เพื่อให้เข้าใจข้อกฎหมายฉบับใหม่ ทั้งนำไปสู่การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนตลอดไป                        

สำหรับกฎหมายอุทยานแห่งชาติฉบับใหม่ ปี พ.ศ.2562 นี้ มีบทมาตรา 64 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 ที่ให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ สำรวจการครอบครองที่ดินของราษฎรเดิมที่อยู่อาศัยและทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ ตามกรอบระยะเวลาของ มติ ครม.30 มิ.ย.41 โดยให้ใช้แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศปี พ.ศ.2545 ตามมติ ครม. 24 ก.ค.2550 พิสูจน์ร่องรอยการทำประโยชน์ ประกอบกับพยานหลักฐานอื่น ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 23 ก.ค. 2563 โดยกรมอุทยานฯ จะทำโครงการฯ นำเสนอคณะกรรมการฯ เห็นชอบ และเสนอคณะรัฐมนตรี เห็นชอบ ตราเป็นพระ ราชกฎษฎีกา ให้คนอยู่กับป่า อย่างถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายต่อไป โดยมีเงื่อนไขต้องร่วมกันอนุรักษ์ป่า ปลูกต้นไม้ ห้ามขยายที่ดินทำกินโดยเด็ดขาด   

นอกจากนี้ยังมีบทมาตรา 65 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 ที่ให้กรมอุทยานฯ สำรวจทรัพยากรที่เกิดขึ้นใหม่และทดแทนได้ตามฤดูกาล เช่น เห็ด หน่อไม้ ผักหวาน ให้สามารถเก็บกินได้ อย่างถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย โดยมีเงื่อนไขในท้องถิ่นนั้นต้องมีทรัพยากรที่เกิดขึ้นใหม่และทดแทนได้อย่างเพียงพอ และการเก็บกินดังกล่าว ต้องไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม               

แม้กฎหมายอุทยานฯ ฉบับใหม่ จะเปิดโอกาสให้ประชาชนเดิม ที่มีที่อยู่อาศัยทำกินในที่เดิม ให้อยู่อาศัยทำกินถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย และเก็บกินทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดใหม่และทดแทนได้ อย่างถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม แต่ก็มีโทษเด็ดขาดและรุนแรงหากมีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฉบับใหม่

เช่น มีการบุกรุกแผ้วถาง ยึดถือ ครอบครอง ปลูกสร้าง หรือเผาป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ ลุ่มน้ำชั้น 1 และชั้น 2 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 ปี - 30 ปี ปรับตั้งแต่ 6 แสน -3 ล้านบาท และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ มีอำนาจสั่งให้บุคคลที่กระทำผิด รื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน ออกไปให้พ้นในเขตอุทยานแห่งชาติ ถ้าไม่รื้อถอน ภายในเวลาที่กำหนด บุคคลที่กระทำผิดที่ไม่ยอมรื้อถอนนั้น มีโทษจำคุกตั่งแต่ 1 ปี ถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท และถูกปรับอีกวันละ 1 หมื่นบาท จนกว่าสิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน นั้น จะถูกรื้อถอนไปและยังต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งมูลค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย นับแสนบาท อีกด้วย นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ กล่าว