เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 ธ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ร.ต.อ.ปิติ  กลิ่นเกษร  รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เกษไชโย  ได้รับการประสานจากศูนย์วิทยุ 191  ให้เดินทางไประงับเหตุชาวนากำลังจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท  สาเหตุเนื่องจากแย่งกันสูบน้ำเข้านา  เหตุเกิดบริเวณริมคลองส่งน้ำชลประทานบางวัดเยื้อง  กลางทุ่งนา  หมู่ที่ 2  ตำบลเทวราช  อำเภอไชโย  จังหวัดอ่างทอง  หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบและทำการระงับเหตุ  พร้อมด้วย นาย ทรงยศ  มะกรูดทอง  สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดอ่างทอง  ในที่เกิดเหตุพบชาวนาเป็นชาย 2 ราย  กำลังมีปากเสียงและกำลังจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทชกต่อยกัน  โดยอีกฝ่ายกอดคอของอีกฝ่ายไว้  โดยมีชาวนาที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันเข้าไปห้ามปราม  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ  จึงได้เรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาทำการตกลงพูดคุย

จากการสอบสวน นาย สมชาย  คล้ายโตนด  อายุ 66 ปี  ชาวนา  อยู่บ้านเลขที่ 60/1  หมูที่ 1  ตำบลเทวราช  อำเภอไชโย  ให้การว่า  ตนเองได้ลงทุนปลูกข้าวทำนาจำนวนกว่า 30 ไร่  เป็นนาเช่า 20 ไร่ และนาของตนเอง 10 ไร่  ในช่วงนี้ต้นข้าวที่ปลูกได้เริ่มตั้งท้องออกรวง  เตรียมที่จะทำการเก็บเกี่ยวในกลางเดือนมกราคม แต่เนื่องจากฤดูแล้งมาเร็วกว่าปกติ  ส่งผลทำให้เกิดความแห้งแล้งไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่อยู่ในนา  ในตอนเช้าจึงได้ขอยืมท่อสูบน้ำจากเพื่อนชาวนา  นำมาตั้งเครื่องทำการสูบน้ำในคลองชลประทานมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังตั้งท้อง  แต่หลังจากที่ตนเองและภรรยากลับไปกินข้าวที่บ้าน  มาพบอีกทีคู่กรณีได้นำแผ่นกระเบื้องที่ตนเองนำมาปิดปากท่อออก  เพื่อกักให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นในการใช้ท่อสูบน้ำเข้านา  จึงทำให้เกิดความโมโหเดินไปหาคู่กรณี  พร้อมทำการสอบถามและเข้าล็อคคอคู่กรณีจะทำร้ายร่างกาย  แต่ภรรยาและเพื่อนชาวนาเข้ามาห้ามปราม  ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาทำการไกล่เกลี่ย  ด้าน นาย ดอกรัก  บุญลือด้วง  อายุ 69 ปี  ชาวนาคู่กรณี  อยู่บ้านเลขที่ 42  หมู่ที่ 1  ตำบลเทวราช  เล่าให้ฟังว่า  ตนเองได้มาทำการตั้งท่อสูบน้ำเข้านาที่เช่าทำนาอยู่จำนวน 25 ไร่  เป็นวันที่ 2  ซึ่งนาของตนเองอยู่ท้ายน้ำถัดจากนาของ นาย สมชาย  พบว่า นาย สมชาย  นำแผ่นกระเบื้องมาปิดปากท่อเอาไว้  ทำให้น้ำไม่ไหลผ่านมาถึงท่อสูบน้ำของตนเอง  จึงได้เดินไปเปิดออกเพื่อให้น้ำไหล  ซึ่งคู่กรณีจะทำการสูบน้ำเข้านาก็น่าจะมาบอกกล่าวกันก่อนไม่ใช่อยู่ ๆ  ก็มาตั้งเครื่องทำการสูบน้ำ