วันนี้ ( 18 มิ.ย.62 ) เวลา 14.00 น. ณ บริเวณห้องโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับรายชื่อคณะรัฐมนตรีว่า สมาชิกผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกตั้งเข้า มาจากประชาชนการเลือกของประชาชน เมื่อเลือกเข้ามาแล้วก็เป็นหน้าที่ของตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่จะมีการตรวจสอบ หลังที่มีการเสนอรายชื่อเข้ามา และมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าหลายคนมีปัญหา ก็ต้องไปถามฝ่ายกฎหมายว่ามีการติดขัดตรงไหนจะเป็นรัฐมนตรีได้หรือไม่ผิดกฎหมายหรือเปล่า ซึ่งถ้าไม่ผิดจะให้ทำอย่างไรในเมื่อประชาชนเลือก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ว่าจะร่วมมือกันอย่างไรในอนาคต และกฎหมายก็มีบรรทัดฐานไว้อยู่แล้วว่าอย่างไรถึงจะเรียกว่าผิด หรือไม่ผิด ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงความลงตัวของเก้าอี้รัฐมนตรีในขณะนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร ได้เรียกมาคุยกันตลอด มีการหารือพูดคุยให้เข้าใจซึ่งกันและกัน แต่จะให้ทุกคนเป็นรัฐมนตรีหมดเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของพรรค และแต่ละพรรคก็มีตัวแทนของภาค ซึ่งต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ตนเข้าใจดีที่ประชาชนเลือกเข้ามาในแต่ละพื้นที่ห่วงกันเรื่องงบประมาณ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง มีการบริหารจัดการจากส่วนกลางลงสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น มีนายกรัฐมนตรี และ ครม. ค่อยกำกับดูแล ดังนั้น งบประมาณต้องลงทุกพื้นที่ทุกจังหวัด ทุกกลุ่มจังหวัด และทุกภาค ซึ่ง ส.ส. ทุกคนมีส่วนร่วมในการพิจารณาตามความต้องการของประชาชน อีกทั้งยังมีเวทีของคณะกรรมการรัฐร่วมเอกชน (กรอ.) กนจ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาร่วมด้วย

ในส่วนของรัฐบาลมีหน้าที่จัดสรรงบประมาณลงไป ซึ่งบางกลุ่มจังหวัดได้มากกว่าเดิมจาก 1-2 ร้อยล้านบาท ได้เพิ่มเป็น 3-4 ร้อยล้านบาท ซึ่งทั้งหมดต้องสอดคล้องกับแผนแม่บทและแผนการปฏิรูปแห่งชาติรวมทั้งความต้องการของประชาชนในพื้นที่ทุกอย่างต้องสอดประสานกัน จึงไม่ต้องกังวลว่าถ้าไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วงบประมาณจะไม่ได้ โดยกล่าวยืนยันว่าต้องได้เพราะทำมา 5 ปีแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นมาเยอะแยะมากพอสมควร แต่ยอมรับว่าอาจตอบสนองกับกลุ่มเล็กๆ ไม่ได้ทั้งหมด เพราะเราต้องทำภาพใหญ่ให้สมบูรณ์ก่อน คิดว่าอีก 5 ปีต่อไปทุกอย่างจะดีขึ้นกว่าเดิมเยอะพอสมควร

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า วันนี้ยอมรับฟังความคิดเห็นของทุกคน ขอบคุณนิสิตนักศึกษาที่ให้ความสนใจ แต่ควรมาคิดร่วมกันว่าจะร่วมมือกันอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเคารพในความคิดของทุกคน วันนี้ต้องรับฟังความคิดเห็นของลูกที่หลาน อะไรที่คิดไม่ตรงกัน ต้องร่วมกันสร้างบรรทัดฐานไม่ให้เกิดผลกระทบ อยากจะขอร้องทุกคน การทำอะไรที่ทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น ไม่มีผลดีกับประเทศ อย่าสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นอีก พร้อมกล่าวย้ำว่านายกรัฐมนตรีฟังทุกคน แต่ไม่สามารถตำหนิใครได้ เพราะถือว่าเป็นโลกแห่งประชาธิปไตย โลกปัจจุบันและโลกาภิวัตน์ แต่ทุกอย่างต้องมีพื้นฐาน เด็กนักเรียนต้องรู้ว่ามีหน้าที่อะไร การแสดงความคิดเห็นจะเอาการเมืองใส่ไปมาก ๆ ไม่ได้ ต้องมีพื้นฐานของตัวเองให้แน่นก่อน และเมื่อโตขึ้นเป็นนิสิตนักศึกษาก็สามารถแสดงออกได้หลายโอกาส แต่ถ้าขัดแย้งทุกอย่างก็ไปไม่ได้ วันนี้ไม่ได้ปิดกั้นใคร และถ้าถามว่าเหนื่อยไหมต้องยอมรับว่าเหนื่อยในการทำความเข้าใจ อย่างอื่นไม่รู้สึกเหนื่อย