วันที่ 6 ธันวาคม 2562 เวลา 13.30น.  นฝ.นศท.มทบ.44 จัดพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของ นศท. ประจำปีการศึกษา 2562 ณ ลานพื้นเเข็งหน้าศาลาเขตอุดมศักดิ์ โดยมี พล.ต. พรชัย  อินทนู  ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 เป็นประธานในพิธี ซึ่งได้มอบโล่ให้กับ ผกท. ตามโครงการ สมาร์ท ผกท. และมอบใบประกาศให้กับ นศท. ตามโครงการสมาร์ท รด.ซึ่งหน่วยได้จัดการแสดงก่อนเวลา 2 การแสดง คือ  1. การแสดงยุทธวิธีหมู่ปืนเล็กในการเข้าตีในเวลากลางวัน ของ นศท. ชั้นปีที่ 3 โรงเรียนสวีวิทยา อ.สวี จว.ชุมพร  2.การแสดงราชสีลีลา  ของ นศท. โรงเรียนสตรีระนอง อ.เมือง จว.ระนอง

พันโท พงษ์พิภพ อรุณเลิศ ผู้บังคับหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร /มณฑล ทหารบกที่ 44  กล่าวรายงาน การดำเนินการจัดพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตน และ สวนสนามของนักศึกษาวิชาทหาร ด้วยอดีตที่ผ่านมา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมุงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6  ได้ ทรงสถาปนา "กองเสือปา" ขึ้น  ด้วยวัตถุประสงค์ ฝึกหัดคนไทย  ที่ไม่ได้เข้ารับราชการทหาร /ให้มีกำลังร่างกายแข็งแรง มีความรู้ในเรื่องอาวุธและวิธีรบ  ให้มีระเบียบวินัยและเป็นผู้นำที่ดี โดยในทุกบ่ายวันเสาร์   พระองค์ท่านจะทรงสอน และฝึกหัดด้วยพระองค์เอง  ครั้นเมื่อเสด็จ สวรรดกิจการก็สิ้นสุดลงไปด้วย ต่อมาเมื่อปี พุทธศักราช 2477  รัฐบาลได้มีนโยบายฟื้นฟูการฝึกวิชาทหาร/แก่นักศึกษาและนักเรียน/ตามแนว พระราโชบาย ของพระองค์ท่าน/ โดยเรียกว่า "ยุวชนทหาร" โดยได้ทำการฝึกอย่างจริงจัง โดยกำหนดหลักเกณฑ์ผู้เข้ารับการฝึกยุวชนทหาร ดังนี้.1. ต้องมีอายุ ระหว่าง 15 - 17 ปี  2. เป็นลูกเสือเอก 3. เป็นนักเรียนในชั้นมัธยมปลาย และเมื่อ วันที่ 8 ธันวาคม พุทธศักราช 2484  กลุ่มยุวชนทหาร ได้ทำการสู้รบกับ ทหารญี่ปุ่น ที่ยกพลขึ้นบกในพื้นที่ของจังหวัดชุมพร เพื่อเดินทางไปยังประเทศพม่า   ในสมัย สงครามโลกครั้งที่ 2  ซึ่งถือว่าเป็นวีรกรรมของเหล่ายุวชนทหาร  ที่ได้จารึกไว้ใน ประวัติศาสตร์ นับเป็นบุญคุณย่างยิ่งใหญ่แก่ประชาชนชาวไทย  และเมื่อหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 ยุติลง  รัฐบาลได้รื้อฟื้นการฝึกวิชาทหารขึ้นมาใหม่  โดยเปลี่ยนชื่อจาก "กรมยุวชนทหาร" เป็น "กรมการรักษาดินแดน" ปัจจุบันขยายอัตราเป็นหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน) และเปลี่ยนชื่อผู้เข้ารับการฝึกจากเดิม "ยุวชนทหาร" เป็น "นักศึกษาวิชาทหาร"  เพื่อเป็นการ รำลึกถึงวีรกรรมของยุวชนทหารในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา   จึงกำหนดให้วันที่ 8 ธันวาคมเป็นวัน "วีรไทย" โดยได้กำหนดให้มีการจัดพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตน    และสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหารขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ  เป็นประจำของทุกปีและในปีการศึกษา 2562 หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนกำหนดให้ ศูนย์ฝึกหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร จัดพิธีกระทำ สัตย์ปฏิญาณตน  และสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหารในวันที่ 6 ธันวาคม 2562 และในพิธีอันสำคัญยิ่งในครั้งนี้ /หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 44  จึงได้จัดทำโล่และประกาศเกียรติคุณ/มอบให้กับผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหาร นักศึกษาวิชาทหาร   จากการจัดโครงการประกวดภาพลักษณ์/ ของผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหาร /และ นักศึกษาวิชาทหาร ประจำปีการศึกษา 2562 ในด้านวินัยการแต่งกาย  ในด้านวินัยการแสดงความเคารพและลักษณะท่าทาง  และการแสดงออกต่อสังคม และนักศึกษาวิชา ทหารที่มีจิตสาธารณะ  ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ

พลตรีพรชัย อินทนู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 เปิดเผยว่า ขอขอบคุณท่านหัวหนส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษาวิชาทหาร ทุกสถานศึกษา   ที่ได้ให้การสนับสนุนกับมณฑลทหารบกที่ 44 ด้วยดี เสมอมา   อีกทั้งให้ความสำคัญในการเข้าร่วมพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตน ของนักศึกษาวิชาทหาร ในครั้งนี้ ผมมีความยินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานและ ร่วมในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตน/ และสวนสนามของนักศึกษาวิชา ทหารในครั้งนี้ / ขอชื่นชมนักศึกษาวิชาทหารทุกคน ที่ให้ความสำคัญ และตั้งใจ  ในการเข้าร่วมในพิธี   กระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนาม  ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์   จากคำกล่าวปฏิญาณตนของ นักศึกษาวิชาทหาร/ผมต้องขอขอบใจและขอให้นักศึกษาวิชาทหารทุกคน/ได้ยึดมั่นและนำไปปฏิบัติตามคำกล่าวปฏิญาณให้เกิดเป็นรูปธรรม  โอวาทของผู้บัญชาการทหารบกในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหาร ประจำปี 2562 นักศึกษาวิชาทหารทั้งหลาย   ท่านคือกำลังพลสำรองของกองทัพ   เป็นส่วนสำคัญในความพร้อมรบ   อันเป็นหลักประกันต่อความมั่นคงของชาติ   โดยนักศึกษาวิชาทหารนั้น   เป็นหนึ่งในกระบวนการ   "เตรียมกำลัง เป็น  กำลังพลสำรองชั้นผู้บังคับบัญชาของกองทัพ") เพื่อปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับกำลังประจำการ  เมื่อสถานการณ์จำเป็นต่อการป้องกันประเทศการศึกษาวิชาทหารตามหลักสูตร  เพื่อมุ่งเน้นให้ท่านเป็น กำลังพลสำรองที่มีคุณภาพ  โดยการเสริมสร้างระเบียบวินัย  ปลูกฝั่งอุดมการณ์ความรักชาติ   เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์  มีความ รับผิดชอบต่อสังคม   และระลึกไว้เสมอว่าทุกท่าน   มีสถานภาพเป็น กำลังพลสำรองของกองทัพ  เมื่อถึงเวลาหรือสถานการณ์อันควร  ทางราชการทหาร   อาจเรียกท่านเข้ามารับใช้ประเทศชาติไต้   ท่าน จะต้องสำนึกต่อหน้าที่  ในฐานะที่เป็นกำลังพลสำรองชั้น ผู้บังคับบัญชา   อันจะเป็นการเสริมสร้าง  ให้กองทัพมีความ แข็งแกร่ง   และขอให้ทุกท่านตระหนักอยู่เสมอว่า   การที่ชาติของเรา ดำรงความเป็นเอกราช  มาได้จนทุกวันนี้   เพราะบรรพบุรุษได้ เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต   เข้าพิทักษ์รักษาไว้   ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน   ที่จะต้องช่วยสืบทอดภาระหน้าที่   อันมีเกียรติยิ่งนี้   เพื่ออนุชนรุ่นหลังต่อไป