เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ รอง.ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง.ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม. จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ธงชนะ หาญกิตติกาญจนา ผกก.สภ.บ่อผุด พ.ต.ท.ภูวดล วิริยนรางกูล สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ แดงไชย สว.สส.กก.1 บก.สส.ภ.8 ร.ต.อ.อรุณ มูสิกิ้ม รอง.สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อม ตำรวจจากประเทศจีน ได้นำกำลังบุกจับกุมตัว นายหลิง เชียว เหวย อายุ 27 ปี สัญชาติจีน และ น.ส.ซู จริง อายุ 34 ปี สัญชาติจีน นายเวน ยี อายุ 25 ปี เป็นสมุนของ นายหลิง เชียว เหวย หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

โดยทางตำรวจ สามารถบุกเข้าไปจับกุมได้ที่สนามบินเกาะสมุย ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน กำลังจะหลบหนีเดินทางออกจากเกาะสมุย มุ่งหน้าไปยังจังหวัดเชียงราย และต่อไปยังท่าขี้เหล็ก ในประเทศเมียนมา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สามารถยึดกระเป๋าเดินทางของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไว้ได้ทั้งหมด จากนั้นควบคุมตัวมาทำการตรวจค้นในกระเป๋าสัมภาระของผู้ต้องหา ที่ สภ.บ่อผุด ในเบื้องต้น พบรายชื่อลูกค้าจำนวนมาก และยึดเงินต่างประเทศสกุลหยวน ได้อีกเป็นจำนวนหนึ่ง  

ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลในทางลึก ทราบว่า นายหลิง เชียว เหวย เป็นหัวหน้าระดับปฏิบัติการ หัวหน้าแก๊ง ภายหลังจากที่ลูกสมุนถูกตำรวจท่องเที่ยวบุกจับกุมได้ภายใน อพาร์ทเม้นท์ สามชั้น แห่งหนึ่ง ภายในซอยลานทอง ในพื้นที่ ตำบลบ่อผุด จำนวน 59 คน แต่นายหลิง เชียว เหวย พร้อมลูกสมุน อีก 2 คน ได้ไหวตัวหลบหนีและกบดานในพื้นที่เกาะสมุย และมาถูกจับกุมได้ในที่สุด ภายหลังจากที่ ทางตำรวจได้บูรณาการแกะรอยจน ทราบว่าผู้ต้องหาจะขึ้นเครื่องหนีออกจากเกาะสมุย

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในเบื้องต้นทางกงสุลประเทศจีน จะเดินทางมาตรวจสอบข้อมูล ภายหลังจากที่พบว่า แก๊งนี้มีการเชื่อมโยงหลอกผู้เสียหายจากประเทศจีน และมีผู้เสียหายจากประเทศจีนได้เข้าร้องทุกข์กับทางการจีนแล้วในบางส่วน ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงถูก พนักงานสอบสวนแยกสอบปากคำ อยู่ที่ สภ.บ่อผุด จำนวน 62 คน โดยทางตำรวจเผยว่า ในคดีนี้ หากทำการสอบปากคำและขยายผลไปถึงใคร ทางตำรวจจะทำการเรียกตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งคนจีนและคนไทย มาสอบปากคำและดำเนินคดีทุกคน
 

 

 

สำหรับเส้นทางเงินไหลผ่านเข้ามายังแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ภายใน 3 อาทิตย์ ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์เเก๊งนี้ในเกาะสมุย เป็นฐาน หลอกลวงคนจีนด้วยกันที่ตกเป็นผู้เสียหาย โดยแก๊งนี้จะหลอกให้โอนเงินด้วยวิธีการชักชวนให้เล่นหุ้น และเล่นเกมส์พนันออนไลน์

ซึ่งในเรื่องนี้ ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ที่ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบด้วยตนเองเมื่อก่อนหน้าได้กำชับทางตำรวจ ให้ดำเนินคดี กับทุกคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ เนื่องจาก เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐาน และหากมีการขยายผลไปถึงตัวบุคคลทั้งชาวไทยและชาวจีน ให้ดำเนินคดีทุกคน และหากมีการเชื่อมโยง หากพบว่าผู้ต้องหาชาวจีนทั้งหมดนี้ หากพบว่ามีการหลวงลวงคนจีนให้มาทำงาน หากพบว่ามีตกเป็นเหยื่อที่ถูกลอกบังคับมาให้ทำงาน ให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการในเรื่องของการค้ามนุษย์ อีกด้วย