เจอเงื่อนงำ สภาพซากโครงกระดูก พบในรถยนต์ผุดล้อชี้กลางคลอง ถูกมัดผ้าปูที่เบาะหลัง คล้ายถูกฆาตกรรมอำพราง
10 ธ.ค. 2562, 09:07
จากกรณีผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก BiBie AitimThanpayort ได้มีการไลฟ์สดภาพเหตุการณ์ พบรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน 4 กฐ 6348 กรุงเทพมหานคร ตกคลองที่บริเวณสะพานบ้านโปร่ง อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี ตรวจสอบภายในพบศพผู้เสียชีวิต เป็นเพศหญิง 1 ราย สภาพเหลือเพียงซากโครงกระดูก คาดประสบเหตุรถจมคลองเป็นระยะเวลานาน โดยต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจากป้ายทะเบียนรถ เพื่อติดต่อประสานญาติ จนทราบว่าทางญาติได้แจ้งบุคคลสูญหาย ไว้ที่ สภ.พระพุทธบาท ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งผ่านพ้นมาเป็นระยะเวลา 3 ปีแล้ว ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางสาวกลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดดูคล้ายว่าเรื่องราวดังกล่าวจะมีเงื่อนงำ คล้ายการฆาตกรรมอำพราง เมื่อมีรายงานจากการตรวจสอบภายในรถยนต์ของนางสาวกลิ่นเกสร โครงกระดูกของผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพถูกผ้าปูนอนห่อหุ้มไว้ อยู่บริเวณเบาะหลัง พร้อมทั้งยังพบข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว และเอกสารการขายปุ๋ยบางส่วน รวมถึงซิลิโคลนที่ผู้เสียชีวิตได้ทำหน้าอกไว้ก่อนจะเสียชีวิต อีก 1 คู่ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ในขณะที่ทางด้านนางลั่นทม วงษ์สิงห์ อายุ 56 ปี ผู้เป็นแม่ของนางสาวกลิ่นเกสร ให้การว่าลูกสาวมีอาชีพเป็นเซลล์ขายปุ๋ย อยู่ที่บริษัทผลิตปุ๋ยแห่งหนึ่งใน อำเภอพระพุทธบาท และมีกิจการขายสเต็ก และเปิดร้านเช่าชุดไทย ในอำเภอพระพุทธบาทด้วย โดยเมื่อปี 2559 ลูกสาวได้หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ. พระพุทธบาท แต่คดีไม่คืบหน้า จนกระทั่งพบกลายเป็นศพเหลือแต่โครงกระดูกอยู่ภายในรถยนต์ของตัวเอง
นางลั่นทม เผยต่อว่า ส่วนตัวเชื่อว่าชายสูงอายุที่มาติดพันลูกสาวคนล่าสุด น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของลูกสาว เนื่องจากก่อนที่ลูกสาวจะหายตัวไป ได้บอกกับนางลั่นทมว่าจะไปนอนพักที่บริษัทผลิตปุ๋ยดังกล่าว ก่อนที่จะหายตัวไปนาน 3 ปี
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ วิเชียรสรรค รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี เปิดเผยว่าจากหลักฐานที่พบภายในรถยนต์ของนางสาวกลิ่นเกสร เชื่อได้ว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากมีผ้าปูที่นอนมัดร่างผู้เสียชีวิต อีกทั้งจากพยานบุคคลให้การว่าก่อนเสียชีวิตได้คบหากับชายสูงอายุ ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการผลิตปุ๋ยใน อำเภอพระพุทธบาท ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ต้องรอผลตรวจสอบสภาพโครงกระดูกผู้เสียชีวิต รวมถึงหลักฐานที่พบภายในรถยนต์ของผู้เสียชีวิต อย่างละเอียดอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : news.ch7