จากกรณีที่แพทย์หญิงโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ถูกคนไข้คว้ากรรไกรมาพยายามแทงทำร้าย แต่เคราะห์ดีที่ไหวตัวทันและใช้แฟ้มเหล็กปัดป้องเอาไว้ได้ทัน โดยแม่ของคนไข้ที่ก่อเหตุได้ชี้แจงว่า ลูกสาวป่วยเป็นโรคทางจิตและอาการซึมเศร้า เคยรักษาและรับยาจากโรงพยาบาลมาทาน อีกทั้งยังมีโรคภูมิแพ้เป็นโรคประจำตัว กระทั่งย้ายมาอยู่ที่ อ.ชุมแพ แพทย์ได้หักดิบ ไม่ให้ใช้ยาตัวเดิมอีก และทำการรักษาเฉพาะแค่อาการภูมิแพ้

ขณะที่คนไข้ที่ก่อเหตุ ได้เปิดใจผ่านรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ว่า ไม่ได้ตั้งใจและมีเจตนาจะทำร้ายแพทย์หญิง ตนมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่ช่วงกลางคืน แต่ไม่พบว่ามีใครมาดูแล กระทั่งตอนเช้าเห็นแพทย์หญิงมาตรวจคนไข้คนอื่นๆ จึงได้เดินไปบอกให้มาตรวจตนเองบ้าง แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า "คอยก่อน" ทำให้รู้สึกว่าตนไม่ได้รับการรักษาดูแลที่ดีพอ ทั้งนี้คนไข้ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ช่วงที่เกิดเหตุตนกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ มองเห็นที่รถเข็นอุปกรณ์ทางการแพทย์พอดี จึงคว้ากรรไกรที่วางอยู่ขึ้นมา แต่ไม่ได้จะแทงคอหมอใดๆ แค่หยิบขึ้นมาดู แล้วหมอก็เอะอะโวยวายไปเอง ยืนยันทุกอย่างเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจและไม่มีเจตนาจะทำร้ายหมอใดๆ แต่ยอมรับว่าได้พูดคำว่า "คุณหมอคะ ถ้าคุณหมอไม่รักษา งั้นเรามาตายด้วยกันนะ" แต่ก็เป็นแค่การพูดเล่นใส่เฉยๆ

ทางด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้กล่าวว่า กรณีเข้าข่ายเป็นการพยายามฆ่าได้ เนื่องจากตามแนวทางฎีกาที่ผ่านมามีการระบุว่าการทำร้ายบริเวณต้นคอซึ่งมีเส้นเลือดสำคัญนั้นทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ จึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามแนวทางของกฎหมายต่อไป