นางสาวจตุพร แจ่มดี อายุ 31 ปี เปิดเผยกับทีมข่าว 7HD ว่าเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. เวลาประมาณ 14.13 น. ตนเองเดินมายังภายในตลาดวังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำเงินสดจำนวน 17,000 บาท ไปฝากผ่านตู้ระบบอัตโนมัติของธนาคารพาณิชย์ ระหว่างทำธุระกรรมโดยนำเงินเข้าไปฝากผ่านตู้ฝากเงินอัตโนมัติ และตู้ไม่รับธนบัตรฉบับ 1000 บาท จำนวน 1 ใบ ตนจึงหยิบธนบัตรฉบับดังกล่าวออกมาจากตู้ และได้ยินเสียงตู้ฝากเงินอัตโนมัติทำงานต่อ จากนั้นตนเองได้เดินออมาจากตู้ทันทีโดยยังไม่รู้ตัวว่ายังทำธุรกรรมการฝากเงินไม่สำเร็จ เนื่องจากลืมกดยืนยัน

 

จนเมื่อกลับไปบ้านก็แปลกใจทำไมเงินที่ฝากผ่านตู้ไม่เข้าบัญชี จึงโทรไปสอบยังธนาคารที่ฝากเงินทราบว่ายังไม่มีเงินฝากผ่านเข้าระบบ อาจจะตกค้างอยู่ที่ตู้ฝากเงินอัตโนมัติ จึงติดต่อธนาคารเพื่อขอดูกล้องวงเมื่อวานนี้(11 ธ.ค.62) พบว่าเงินที่นำไปฝากผ่านตู้ฝากเงินอัตโนมัติและลืมกดยืนยันเงินไม่เข้าระบบ จากนั้นได้มีชายอายุประมาณ 30-40 ปี ขี่รถจักรยายนต์ สีแดงดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ไปจอดที่หน้าตู้ฝากเงินอัตโนมัติและเข้าไปทำธุระกรรมการเงินต่อจากตนเอง เห็นว่าชายคนดังกล่าว พยามกดยกเลิกอยู่ที่หน้าตู้ จนจำนวนเงินที่ตนเองนำไปฝากเด้งกลับคืนมา แล้วชายคนดังกล่าวก็หยิบเงินออกจากตู้ฝากเงิน แล้วรีบเดินไปขี่รถจักยานยนต์ออกไปพร้อมกับเงินของตนเอง

น.ส.จตุพร กล่าวอีกว่าได้ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรวังน้อยไว้แล้ว เพื่อให้ตำรวจเร่งติดตามตัวชายคนดังกล่าวพร้อมเงินกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ยอมรับว่าเป็นความผิดของตนเองที่ไม่รอบคอบ อีกทั้งเงินจำนวนดังกล่าวมีความสำคัญกับตนเองมากเพราะต้องนำเงินไปใช้หนี้ เมื่อเงินหายไปแบบนี้ตอนนี้เดือดร้อนมาก อยากให้คนที่เอาเงินไปช่วยนำมาคืน ไม่ต้องกลัวความผิด เพราะตนจะไม่เอาเรื่อง