เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



กอ.รมน.สนธิกำลังล่า "ชายชุดดำ" ทำร้ายม็อบเรียกร้องที่ดินทำกินสวนปาล์ม


12 ธ.ค. 2562, 16:24



กอ.รมน.สนธิกำลังล่า "ชายชุดดำ" ทำร้ายม็อบเรียกร้องที่ดินทำกินสวนปาล์ม




ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า กอ.รมน. สนธิกำลังครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 ธ.ค. 62 นายขจิต ผลอินทร์ แกนนำกลุ่มม็อบสวนปาล์มกระบี่น้อย ได้นำสมาชิกประมาณ 300 คน เข้ายื่นหนังสือ ต่อ พันเอกชัยพิพัฒน์ รันสูงเนิน รอง ผอ.กอ.รมน.จ.กระบี่ เพื่อขอกำลังเข้าไปดูแลความปลอดภัยให้กับสมาชิกที่อาศัยอยู่ในสวนปาล์ม พิพาท ของบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มจํากัด กับพื้นที่ สปก. ม.4 และ ม.10 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ หลังจากสมาชิก ถูกชายชุดดำ ปิดบังใบหน้า กว่า 10 คน อุ้มทําร้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา

นายขจิต กล่าวว่า สำหรับสวนปาล์มของบริษัทอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มจำกัด มีที่ดินบางส่วน ซึ่งเป็นที่ดินที่ทางบริษัทเข้าไปบุกรุก พื้นที่ สปก.ปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งต่อมาทางกลุ่มชาวบ้าน ได้เข้าไปยึดอาศัย เพื่อเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปตรวจสอบและนำกลับมา จัดสรรให้กับคนจนไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งขณะนี้ ได้มีกลุ่มชาวบ้าน รวมตัวกันเข้าไปยึดพื้นที่ มีหลายกลุ่ม และเริ่มมีความขัดแย้งรุนแรงขึ้นตามลำดับ ที่ผ่านมาสมาชิกฯกลุ่มของตน ได้ถูกชายชุดดำ อุ้มทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมยังข่มขู่ให้ออกจากพื้นที่

นอกจากนี้กลุ่มชายดังกล่าวยังได้เข้ารื้อถอนทำลายบ้านพักอาศัย ของสมาชิกเสยหายไป 1 หลัง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกตน รับไม่ได้ เพราะคนที่จะมาให้พวกตนออกจากพื้นที่ได้ ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น ต่อมา พันเอกชัยพิพัฒน์ ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบตามข้อร้องเรียนของนายขจิต พบว่าพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน ของ บ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทางบริษัทฯอ้างสิทธิ์ว่ามีหลักฐานคอบครองถูกต้อง ม.4 ต.กระบี่น้อย โดยภายในสวนปาล์ม มีกลุ่มชาวบ้านเข้าไปยึดครองสร้างบ้านพัก กว่า 100 หลังคาเรือน โดยชาวบ้านที่ถูกทำร้าย ได้เล่าเหตุการณ์ว่า ในเกิดวันเกิดเหตุ มีชายชุดดำ ปกปิดใบหน้า กว่า 10 คน เข้ามารุมทำร้ายและข่มขู่ให้ออกจากพื้นที่ ซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มม็อบอีกกลุ่ม

ด้านพันเอกชัยพิพัฒน์ กล่าวว่า กลุ่มชาวบ้านที่เข้ามาอาศัยอยู่ในสวนปาล์ม มีประมาณ 3-4 กลุ่ม คาดว่าเกิดจากความขัดแย้งกันในพื้นที่ แต่การกระทำที่เกิดขึ้นถือว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ของบริษัทฯ ว่าได้มาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือว่าเป็นพื้นที่ของ สปก.หากว่าเป็นพื้นที่ สปก.เตรียมยึดคืนมาจัดสรรให้กับคนจนไม่มีที่ดินทำกินในเร็วๆ นี้

 









Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.