ตื่นตาตื่นใจ!! มหกรรมยานยนต์เพื่อคนอุดร ยอดจองคึกคัก
12 ธ.ค. 2562, 20:21
วันนี้ ( 12 ธ.ค.62 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ปิดฉากลงแล้วสำหรับงาน มหกรรมยานยนต์เพื่อคนอุดรธานี F.T.I.MOTOR SHOW UDONTHANI 2019ที่มีค่ายรถยนต์ชั้นนำกว่า 8 แบรนด์ ขนรถรุ่นใหม่มาเปิดตัวและจัดแสดงโชว์ให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัส พร้อมนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ มากมาย ไม่แพ้งาน Motor Expo 2019 โดยปีนี้ถือว่าได้การตอบรับค่อนข้างดีถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ สร้างยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้มากกว่า 350 คัน และมีผู้เข้าชมกว่า 4 หมื่นคน
นายเด่นพร อังสนันท์ กรรมการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ในฐานะประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์เพื่อคนอุดรธานี” F.T.I.MOTOR SHOW UDONTHANI 2019 เปิดเผยว่า จากการที่สภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ได้มีการจัดงานมหกรรมยานยนต์เพื่อคนอุดรธานี F.T.I.MOTOR SHOW UDONTHANI 2019 ขึ้นเพื่อส่งเสริมเพิ่มยอดขายและการบริการลูกค้าในธุรกิจยานยนต์ในจังหวัดอุดรธานี และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และปีนี้เป็นปีที่ 4 การจัดงานปีนี้เราได้กลุ่มลูกค้ากลุ่มที่จะมาเดินมาร่วมชมงานกว่า 40,000 คน ตลอด 9 วัน มีรถยนต์เข้ามาร่วมงานกับเรา 8 ค่าย ประกอบด้วย Toyota, Isuzu, Mazda, mg, Mitsubishi, BMW, Mercedes-Benz, และ Hyundai รถจักรยานยนต์ 3 ค่าย ประกอบด้วย Benelli, triumph และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
โดยภาพรวมยอดจองหลังการจัดงาน มีทั้งหมดประมาณ 350 คัน แบ่งเป็น Toyota 100 คัน Isuzu 40 คัน mg 40 คัน Mitsubishi 60 คัน ยี่ห้ออื่นๆ เฉลี่ยกันไปประมาณ 10- 20 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์มีคนสนใจจอง 50 คัน ซึ่งรถที่ประชาชนสนใจส่วนใหญ่เป็นรถ eco car ที่ถือว่าเป็นรถที่ราคาไม่สูง ประชาชนสามารถจับต้องได้ อีกทั้งยังมีแคมเปญจากบริษัทแม่ของแต่ละค่าย มีโปรโมชั่นน่าสนใจดึงดูดลูกค้า ทำให้ลูกค้าประชาชนตัดสินใจง่าย รองลงมาจะเป็นรถกระบะจากค่าย Toyota Isuzu Mitsubishi Mazda และ mg คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว รถยนต์ 85 เปอร์เซ็นต์ รถจักรยานยนต์ 25 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ภาพรวมของกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งประเทศคาดการณ์ว่าปี 2562 จะมียอดขายประมาณ 1,005,000 คัน แต่จนมาถึงวันนี้ยอดขายยังไม่ถึง และในปี 2563 กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์มีการตั้งเป้าขายใหม่ โดยปีนี้ตั้งเป้าไว้ 960,000 กัน ซึ่งลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามปีนี้ถือเป็นปีที่ค่อนข้างแย่ของเศรษฐกิจไทย อยากให้ทางรัฐบาลน่าจะมีการกระตุ้น สนับสนุนมายังภาคเอกชนและประชาชน ซึ่งจะทำให้มีโอกาส และกำลังการซื้อของประชาชนจะเพิ่มขึ้นในอนาคต