วันนี้ (19 มิ.ย. 2562) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมโรงเรียนบ้านห้วยเสือ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ในฐานะกรรมการโครงการกองทุนการศึกษาในจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี นายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายอนันต์ กัลปะ ศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู บุคลากร และนักเรียน ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมภายในโรงเรียนบ้านห้วยเสือ ดูชีวิตความเป็นอยู่ภายในโรงเรียน โดยเน้นย้ำให้ดูแลด้านสุขภาวะของนักเรียนในโรงเรียนให้ดีอีกด้วย จากนั้นองคมนตรีได้พบปะพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่และการเรียนของนักเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ต่อจากนั้นได้ประชุมและรับฟังผลการขับเคลื่อนคุณธรรมสู่ชุมชนจากผู้บริหารโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ในจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 11 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านหินตั้ง โรงเรียนบ้านกองม่องทะ โรงเรียนสมาคมป่าไม้แห่งประเทศไทยอุทิศ โรงเรียนบ้านไร่ โรงเรียนศรีสวัสดิ์พิทยาคม โรงเรียนบ้านโป่งหวาย โรงเรียนวัดถ้ำองจุ และโรงเรียนบ้านดงเสลา พร้อมด้วยโรงเรียนในเครือข่ายได้แก่ โรงเรียนบ้านห้วยเสือ โรงเรียนบ้านทุ่งเสือโทน โรงเรียนเพียงหลวง 3 เพื่อรับทราบถึงแผนปฏิบัติของโรงเรียนสู่การปฏิบัติจริง การขับเคลื่อนคุณธรรมสู่ชุมชนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ปี 2562

โครงการกองทุนการศึกษาเกิดขึ้นเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 โดยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีพระราชกระแสรับสั่งไปยังประธานองคมนตรีว่า มีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานเงินส่วนพระองค์จำนวนหนึ่ง มาทำให้เกิดประโยชน์ด้านการพัฒนาการศึกษา ให้ทำแบบภาคเอกชน คือเรียบง่าย รวดเร็ว คล่องตัว แต่ต้องประหยัด พอเพียง ซื่อสัตย์สุจริต และไม่ควรประชาสัมพันธ์เกินไป โดยให้ประธานองคมนตรีและคณะองคมนตรีดำเนินการรับสนองพระราชดำริ จึงตั้งคณะกรรมการประกอบด้วยองคมนตรีเพื่อบริหารงาน และให้มีอาสาสมัครที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยและตั้งสำนักงานขึ้นเพื่อรองรับด้านธุรการ นั่นคือจุดเริ่มต้นของโครงการกองทุนการศึกษา พระองค์พระราชทานแนวพระราชดำริให้ประธานองคมนตรีและคณะองคมนตรีไปช่วยคิดหาทางว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้เด็กเป็นคนดี ซึ่งสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน วิธีการเรียนการสอนเปลี่ยนแปลงไป ควรจะทำให้เป็นคนดีให้ได้ก่อนและเมื่อเป็นคนดีแล้ว ความเก่งก็จะตามมาได้ไม่ยาก เด็กจะต้องมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนและสอนให้แก่กันเอง ช่วยกันเรียน ไม่ใช่แข่งกันเรียน และต้องมีกิจกรรมที่ส่งเสริมความสามัคคีด้วย