"ธรรมนัส" ลงพื้นที่บึงกาฬ มอบ ส.ป.ก. 4-01 และสินเชื่อกองทุนการปฏิรูปที่ดิน แก่เกษตรกร
13 ธ.ค. 2562, 20:34
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 13 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) และมอบสินเชื่อกองทุนการปฏิรูปที่ดินให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน พร้อมเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) หวังพัฒนาอาชีพให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน โดยมีนายสนิท ขาวสอาด ผวจ.บึงกาฬ ส่วนราชการและเกษตรกรกว่า 1,000 คน ที่มาให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมโรงเรียนศรีวิไลวิทยา อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) แก่เกษตรกร 1,326 ราย 1,459 แปลง เนื้อที่ 39,230 ไร่ โดยมีพันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวรายงานผลการดำเนินงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดบึงกาฬ ว่า จังหวัดบึงกาฬ มีพื้นที่ประกาศพระราชกฤษฎีกาให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินทั้งสิ้น จำนวน 8 อำเภอ 52 ตำบล เนื้อที่ประมาณ 1,277,306 ไร่ เดิมพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินทั้ง 8 อำเภอดังกล่าว อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดหนองคาย ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ โดยให้แยกอำเภอบึงกาฬ อำเภอเซกา อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงโขงหลง อำเภอปากคาด อำเภอพรเจริญ และอำเภอศรีวิไล ออกจากเขตการปกครองของจังหวัดหนองคาย จึงมีผลให้พื้นที่ 8 อำเภอ เป็นเขตปฏิรูปที่ดินอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งมีรายละเอียดการจัดที่ดิน ประกอบด้วยที่ดินของรัฐ ได้ดำเนินการจัดที่ดินและมอบหนังสืออนุญาตให้เกษตรกร เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ไปแล้ว จำนวน 80,813 ราย 90,446 แปลง เนื้อที่ประมาณ 1,095,964 ไร่ และที่ดินเอกชน ได้ดำเนินการจัดที่ดินโดยการทำสัญญาเช่าและสัญญาเช่าซื้อ จำนวน 10 ราย 12 แปลง เนื้อที่ประมาณ 167 ไร่ รวมทั้งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ส.ป.ก.จังหวัดบึงกาฬ ได้ดำเนินการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรไปแล้ว จำนวน 2,900 ราย 3,249 แปลง เนื้อที่ประมาณ 33,764 ไร่ รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 15 โครงการ สำหรับพื้นที่ที่เหลืออีก 4,669 ไร่ ส.ป.ก.จะเร่งดำเนินการและมอบเอกสารสิทธิ์ให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน และจำทำให้ ส.ป.ก. มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเหมือน น.ส.3 และโฉนดที่ดิน พร้อมกับจะทำให้ราคายางพารามีราคาเพิ่มขึ้นกว่าปัจจุบันโดยจะสร้างโรงงานแปรรูปยางพาราขึ้นมาอีกที่จังหวัดบึงกาฬ
หลังจากนั้น รมช.ธรรมนัส ได้เดินทางไปตรวจติดตามการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผ่านศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดบึงกาฬ (ศพก.) ซึ่ง ศพก. แห่งนี้ขยายผลองค์ความรู้จาก ศพก.อำเภอศรีวิไล (นายวิชิต โพธิ์ขี) โดยมีนายประวิทย์ ทุ่งคำ เป็นเจ้าของศูนย์ฯ มีสมาชิกจำนวน 36 ราย ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ป.ก.จังหวัดบึงกาฬ องค์ความรู้เด่น ได้แก่ การทำเกษตรแบบผสมผสาน โดยเฉพาะด้านไม้ผล เช่น มะพร้าวน้ำหอม และการผลิตปุ๋ยชีวภาพ โดย ส.ป.ก.จังหวัดบึงกาฬ ได้เข้ามาดำเนินงานภายใต้โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน กิจกรรมการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ในเขตปฏิรูปที่ดิน มีการส่งเสริมองค์ความรู้และสนับสนุนปัจจัยการผลิตในการทำเกษตรอินทรีย์แบบกลุ่มรับรองกันเอง (PGS) และดำเนินกิจกรรมวนเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน
นอกจากนั้น ส.ป.ก.จังหวัดบึงกาฬ ได้เพิ่มแผนดำเนินกิจกรรมการส่งเสริมพืชสมุนไพรในเขตปฏิรูปที่ดิน และโครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) และโครงการมอบสินเชื่อเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 20 ราย เป็นเงิน 1,000,000 บาท เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่ ศพก.เครือข่าย และสมาชิกให้มีความเป็นอยู่ที่มั่นคงต่อไปอีกด้วย