เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



อุทาหรณ์! หญิงวัย 35 ติดเชื้อปลายกระดูกนิ้ว เสี่ยงพิการ - Hiv เพราะทำเล็บร้านเสริมสวย


16 ธ.ค. 2562, 11:47



อุทาหรณ์! หญิงวัย 35 ติดเชื้อปลายกระดูกนิ้ว เสี่ยงพิการ - Hiv เพราะทำเล็บร้านเสริมสวย




เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 เฟซบุ๊กชื่อ "Arak Wongworachat" ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์อุทาหรณ์หญิงวัย 35 ปี ติดเชื้อที่กระดูกนิ้วหัวแม่มือส่วนปลาย เสี่ยงพิการงอนิ้วไม่ได้ และเสี่ยงติดเชื้อ Hiv หลังตัดแต่งเล็บร้านเสริมสวยที่ไม่ได้ทำความสะอาด และฆ่าเชื้ออย่างเพียงพอ

นพ.อารักษ์ ได้ระบุข้อความว่า "อุทาหรณ์ หญิงอายุ 35 ปี เมื่อ20วันก่อนไปทำเล็บร้านเสริมความงาม มีการขูดร่องเล็บและตัดแต่ง ต่อเล็บปลอมด้วยกาวตราช้าง อีกสามวันต่อมารู้สึกเริ่มปวด คิดว่าไปน่าเป็นอะไรมาก 



ต่อมาบวมมากขึ้น ซื้อยากินเอง ยุบลงเล็กน้อย ทิ้งระยะมาหลายวันทนเอา รู้สึกเป็นไข้ บวมแดง ร้อนลามจากปลายนิ้วไปถึงโคนนิ้วงอนิ้วไม่ได้ ปวดทรมานมาก จนต้องตัดสินใจเอาเล็บปลอมออก ทำให้เนื้อเยื่อขอบเล็บหลุดออกมาด้วย ปวดทนไม่ไหวจึงมาพบแพทย์ 

ส่งเอกซเรย์ที่มือพบว่า กระดูกนิ้วหัวแม่มือส่วนปลายเริ่มกร่อนเป็นลักษณะติดเชื้อที่กระดูก จนต้องเข้านอนในโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัด พบว่ามีหนองรอบๆ เนื้อเยื่อหัวแม่มือ ลามเข้าข้อ กระดูก และให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือด ใช้เวลารักษา อีกหลายวัน เสียค่าใช้จ่ายอีกหลายหมื่นบาท อีกทั้งมีโอกาสเสี่ยงพิการงอนิ้วหัวแม่มือไม่ได้ตามมา นอกจากนั้นต้องตรวจหาว่าติดเชื้อHiv ร่วมด้วยหรือไม่?

เพราะเคยมีรายงานการติดเชื้อเอดส์จากการทำเล็บมาแล้วแต่งเล็บจึงต้องพึงระวัง เครื่องมืออาจไม่สะอาด หรือผ่านการใช้งานมาจากหลายๆ คนแล้วไม่ได้ทำความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างเพียงพอ จนติดเชื้อได้ ใครเคยเป็นมาบ้างลองแชร์ประสบการณ์มาดูกันครับ"

ภาพจาก Arak Wongworachat

 

นพ.อารักษ์ ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า อาการของกระดูกอักเสบ (Osteomyelitis) แบบเฉียบพลันมักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในช่วง 7-10 วัน แต่อาจเป็นอาการเรื้อรังที่ค่อย ๆ เกิดขึ้น โดยลักษณะอาการที่พบส่วนใหญ่มักมีความคล้ายคลึงกัน ดังนี้

1.มีอาการปวด บวม หรือแดงในบริเวณที่มีการติดเชื้อ และอาจพบหนองร่วมด้วย
2.มีไข้ หนาวสั่น
3.อ่อนเพลีย
4.คลื่นไส้ เบื่ออาหาร
5.ไม่สามารถเคลื่อนไหวบริเวณข้อต่อที่มีอาการได้ หรือเคลื่อนไหวได้ลำบาก

การใช้ยา แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะหรือยาแก้ปวด โดยอาจฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำหรือให้ยาแบบรับประทาน ซึ่งหากผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อรุนแรง อาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายเดือน

สาเหตุของกระดูกอักเสบ มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจเกิดขึ้นในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกาย แล้วแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดจนทำให้เกิดการติดเชื้อที่กระดูก โดยแบคทีเรียอาจเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง ดังนี้

1.การติดเชื้อทางกระแสเลือด หรือการติดเชื้อที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อบริเวณปอดหรือกระเพาะปัสสาวะแล้วเชื้อแพร่กระจายไปยังกระดูกส่วนต่าง ๆ ในร่างกายจนผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้ เป็นต้น

2.การติดเชื้อจากแผลเปิด เชื้อโรคอาจเข้าสู่ร่างกายเมื่อเกิดบาดแผลและอาจทำให้เชื้อแพร่กระจายไปถึงกระดูกได้ โดยการเกิดแผลอาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น การผ่าตัด การบาดเจ็บ การทำเล็บเป็นต้น

3.การติดเชื้อจากเนื้อเยื่อหรืออวัยวะใกล้เคียง บาดแผลที่เกิดขึ้นอาจอักเสบจนลุกลามไปยังเนื้อเยื่อหรืออวัยวะต่าง ๆ แล้วแพร่กระจายไปยังกระดูกที่อยู่ใกล้เคียงกันด้วย

 

ภาพจาก Arak Wongworachat


ภาพจาก Arak Wongworachat

 

ภาพจาก Arak Wongworachat

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.