แทบเข่าทรุด!! เจ้าของกิจการค้าไม้และค้าเหล็ก โดนมิจฉาชีพ อ้าง พนง.ธนาคาร โทรขอ "รหัส OTP" เงินหายกว่าล้านบาท
17 ธ.ค. 2562, 19:34
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 17 ธ.ค.62 ที่หน้าธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา บ้านตาขุน อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี นางศุภธียา สรรพา อายุ 55 ปี และนาย สมสุข สรรพา อายุ 54 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของกิจการค้าไม้ และค้าเหล็ก อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ที่ 1 ต.เขาวง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ได้ยืนถือป้ายพร้อมข้อความ “ ช่วยด้วยฝากเงินกับธนาคาร สาขาบ้านตาขุน เงินหาย ใครรับผิดชอบ " ทำให้ชาวบ้านต่างถ่ายภาพโพสต์โซเชียลกันจำนวนมากซึ่งผู้ที่ยืนถือป้ายระบุว่า เพื่อให้คนทั่วไปตระหนักถึงความปลอดภัยของเงินฝากในบัญชีธนาคาร
นางศุภธียา สรรพา หรือเจ๊หงส์ เล่าว่า ได้เปิดบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ทวีโชค กับธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา บ้านตาขุน ตั้งแต่ เดือน มกราคม 2561 โดยมียอดเงินล่าสุด 2,033,000 บาท นอกเหนือจากบัญชีหมุนเวียน ไม่ได้มีการเบิกมาใช้แต่อย่างใด จนกระทั่งวันที่ 12 ธ.ค. เวลา 14.01 น. ได้มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ หมายเลข 0991598260 โทรเข้ามาหาและอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร ดังกล่าวจะขอตรวจสอบความถูกต้องของบัญชี แต่ ขณะเดียวกันได้มีลูกค้าเข้ามาซื้อของที่ร้านตนเองจึงได้วางสายไปก่อน และวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะ หลังจากนั้น20 นาที ได้รับแจ้งจากเสมียนว่ามีพนักงานธนาคารโทรมาให้ยืนยันข้อมูลทางบัญชีและได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ตนเองเอะใจจึงได้โทรกลับไปที่เบอร์โทรดังกล่าว แต่ไม่มีผู้รับสาย จึงเดินทางไปติดต่อที่ธนาคาร แต่ตนไม่เข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้เกิดการสื่อสารผิดพลาดกับทางธนาคาร เนื่องจากตนเองคิดว่า ทางธนาคารต้องการให้ตนใช้บริการแอปพิเคชัน เอ-โมบาย ของทางธนาคาร ซึ่งพนักงานแจ้งว่าลูกค้าต้องทำรายการด้วยตนเองเท่านั้น ตนจึงได้เดินทางกลับ และนำสมุดไปปรับพบว่า เงินถูกเบิกถอนไปผ่านแอปพิเคชัน จำนวน14 ครั้ง กว่า 1 ล้านบาท จึงได้ประสานธนาคารให้อายัดเงินส่วนที่ในบัญชี 1,013,000 บาท ไว้ เพราะตนไม่ได้เป็นผู้ทำการโอนเงินด้วยตนเอง และได้ให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาขุน
ทางด้าน นายพยุงศักดิ์ โภคภิรมย์ ผอ.สำนักงาน ธ.ก.ส.จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากลูกค้าและตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชี พบว่ามีการเบิกเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มโดยไม่ใช้บัตร ที่ธนาคาร ธ.ก.ส.สาขากำแพงเพชร จำนวน 2 หมื่นบาท และมีการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ 0823169256 ของธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุเจ้าของ ชื่อ MR.Kyaw Kyaw ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือระบบดีเทคแบบเติมเงินคาดว่า เป็นของชาวเมียรมา จำนวน 500,000 บาท และถูกโอนต่อไปยัง ธนาคารกสิกร เจ้าของบัญชีเป็นคนไทย ซึ่งสามารถประสานธนาคารปลายทางทำการอายัดดังกล่าวไว้ได้ ส่วนอีก 500,000 บาทถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ มีเจ้าของบัญชีเป็นคนไทยแต่เงินจำนวนดังกล่าวถูกถอนออกไปแล้ว ซึ่งทางธนาคารได้ส่งเอกสารทางบัญชีให้กับ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาขุน เพื่อดำเนินการสอบสวนตามกฎหมายแล้ว
นายพยุงศักดิ์ โภคภิรมย์ ผอ.สำนักงาน ธ.ก.ส.จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่า แอปพิเคชันของธนาคารยังมีความปลอดภัย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดและเกี่ยวข้อง โดยบัญชีดังกล่าวถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์เข้าไปหาลูกค้า เพื่อขอรหัสความปลอดภัย หรือ OTP ซึ่งเป็นรหัสปลอดที่ระบบของทางธนาคารจะส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกกับบัญชีของลูกเท่านั้น จึงฝากเตือนไปยังลูกค้าธนาคาร และยืนยันว่า ธนาคารไม่มีนโยบาย ให้พนักงานโทรติดต่อเพื่อขอข้อมูลส่วนตัว หรือรหัสลับใดๆ กับลูกค้า ซึ่งการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางบัญชี ลูกค้าจะต้องดำเนินการด้วยตนเองที่ธนาคารสาขาที่เปิดบัญชีเท่านั้น และหากสงสัยให้ติดต่อธนาคารทันที โดยไม่มอบข้อมูลใดๆ ให้กับผู้ที่โทรเขามา
ส่วนความคืบหน้าทางคดี พ.ต.ท.มะนพ มะโรตระกูล สว.(สอบสวน) สภ.บ้านตาขุน เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎรธานี ให้เข้าคลี่คลายคดี เนื่องจากเป็นคดีที่ใช้เทคโนโลยี ในการก่ออาชญากรรม โดยเบื้องต้นได้ทำหนังสือประสานไปยังธนาคารที่คนร้ายโอนเข้าบัญชี และประสานไปยังบริษัทดีแทคเพื่อขอข้อมูลผู้เปิดบัญชีและผู้ใช้โทรศัพท์ นอกจากนั้นทางธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ส่งภาพกล้องวงจรปิดคาดว่าเป็นคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมหน้ากากอนามัย และหมวก ปิดบังใบหน้าไปกดเงินที่ธนาคารสาขากำแพงเพชร และหลังจากนี้จะได้เรียกผู้เสียหาย และผู้ที่เกี่ยวข้อง มาสอบสวนปากคำเพื่อหารายละเอียดของพฤติการณ์ของการเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง