จากกรณีนายอัมรินทร์ หรือบ่าวเล็ก ทองสกุล เจ้าของสวนยางวัย 45 ปี ชาวหมู่ 7 บ้านเกาะเรือโกรน ตำบลนาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.วันที่ 15 ธ.ค.ถูกคนร้ายซุ่มยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองอกพรุนเสียชีวิตภายในสวนยางพาราห่างจากบ้านเพียง 100 เมตร ส่วนน.ส.ลาวัล ภรรยา ยังถูกคนร้ายคนเดียวกันยิงไล่หลังแต่อาศัยความมืดวิ่งหนีรอดมาได้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ(นปพ.)และชุดสืบสวน สภ.สวี สืบสวนพยานและแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดรวบรวมพยานหลักฐาน

 

 

หลังเกิดเหตุเพียงสองวันล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 17 ธ.ค. พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.อุดร แก้วสุขศรี ผกก.สภ.สวี พ.ต.ท.ถิรเดช แข็งแรง รอง ผกก.สส.สภ.สวี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ(นปพ.)จ.ชุมพร ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชุมมพร สืบสวนสภ.สวี ร่วมกับควบคุมตัวนายวัชรินทร์ หรือบ่าวกุ้ง ทองสกุล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/4 หมู่ 7 ตำบลนาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาวจำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุนเบอร์12 จำนวน 4 ปลอก ผู้ต้องหายิงนายอัมรินทร์ ทองสกุล อายุ 45 ปี เสียชีวิต ซึ่งเป็นญาติมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง โดยแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน(ไม่มีทะเบียน)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายฯ

ต่อมาได้นำตัวนายวัชรินทร์ไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพก่อนและหลังก่อเหตุยิงนายอัมรินทร์ฯเสียชีวิต โดยจุดแรกที่ในสวนปาล์มน้ำมัน บ้านเกาะเรือโกรน หมู่ 7 ตำบลนาโพธิ์ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหายืนซุ่มสูบบุหรี่อยู่ในความมืดใต้ต้นปาล์ม ระหว่างนั้นมีสุนัขของคนตายได้วิ่งมาเห่า ส่วนผู้ตายก็วิ่งตามสุนัขมาจึงยิงไปหนึ่งนัด ทำให้คนตายวิ่งหนีผู้ต้องหาจึงรีบเปลี่ยนกระสุนแล้วยิงไล่หลังไปอีก ต่อมาภรรยาของผู้ตายได้พาร่างโชกเลือดไปนอนในสวนยางพาราผู้ต้องหาจึงไปยิงซ้ำจนตาย ส่วนน.ส.ลาวัล ฯภรรยาวิ่งหนีไปในความมืด แต่ระหว่างที่ทำแผนจุดเดียวกันนี้เกิด “ภาพสลดเมื่อภรรยาทั้งของผู้ต้องหาและผู้ตายต่างโอบกอดและยกมือไว้ขอโทษกันทั้งสองฝ่าย”