จับแล้ว ! “บ่าวกุ้ง” มือยิงเจ้าของสวนยางอกพรุน อ้างถูกคนตายยิงขู่ก่อนหลายครั้ง
18 ธ.ค. 2562, 08:29
จากกรณีนายอัมรินทร์ หรือบ่าวเล็ก ทองสกุล เจ้าของสวนยางวัย 45 ปี ชาวหมู่ 7 บ้านเกาะเรือโกรน ตำบลนาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.วันที่ 15 ธ.ค.ถูกคนร้ายซุ่มยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองอกพรุนเสียชีวิตภายในสวนยางพาราห่างจากบ้านเพียง 100 เมตร ส่วนน.ส.ลาวัล ภรรยา ยังถูกคนร้ายคนเดียวกันยิงไล่หลังแต่อาศัยความมืดวิ่งหนีรอดมาได้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ(นปพ.)และชุดสืบสวน สภ.สวี สืบสวนพยานและแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดรวบรวมพยานหลักฐาน
หลังเกิดเหตุเพียงสองวันล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 17 ธ.ค. พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.อุดร แก้วสุขศรี ผกก.สภ.สวี พ.ต.ท.ถิรเดช แข็งแรง รอง ผกก.สส.สภ.สวี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ(นปพ.)จ.ชุมพร ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชุมมพร สืบสวนสภ.สวี ร่วมกับควบคุมตัวนายวัชรินทร์ หรือบ่าวกุ้ง ทองสกุล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/4 หมู่ 7 ตำบลนาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาวจำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุนเบอร์12 จำนวน 4 ปลอก ผู้ต้องหายิงนายอัมรินทร์ ทองสกุล อายุ 45 ปี เสียชีวิต ซึ่งเป็นญาติมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง โดยแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน(ไม่มีทะเบียน)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายฯ
ต่อมาได้นำตัวนายวัชรินทร์ไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพก่อนและหลังก่อเหตุยิงนายอัมรินทร์ฯเสียชีวิต โดยจุดแรกที่ในสวนปาล์มน้ำมัน บ้านเกาะเรือโกรน หมู่ 7 ตำบลนาโพธิ์ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหายืนซุ่มสูบบุหรี่อยู่ในความมืดใต้ต้นปาล์ม ระหว่างนั้นมีสุนัขของคนตายได้วิ่งมาเห่า ส่วนผู้ตายก็วิ่งตามสุนัขมาจึงยิงไปหนึ่งนัด ทำให้คนตายวิ่งหนีผู้ต้องหาจึงรีบเปลี่ยนกระสุนแล้วยิงไล่หลังไปอีก ต่อมาภรรยาของผู้ตายได้พาร่างโชกเลือดไปนอนในสวนยางพาราผู้ต้องหาจึงไปยิงซ้ำจนตาย ส่วนน.ส.ลาวัล ฯภรรยาวิ่งหนีไปในความมืด แต่ระหว่างที่ทำแผนจุดเดียวกันนี้เกิด “ภาพสลดเมื่อภรรยาทั้งของผู้ต้องหาและผู้ตายต่างโอบกอดและยกมือไว้ขอโทษกันทั้งสองฝ่าย”
หลังจากยิงเสร็จผู้ต้องหาเดินลัดเลาะในสวนปาล์มกลับบ้านระหว่างทางผ่านป่าพรุได้นำปลอกกระสุนไปทิ้งเจ้าหน้าที่จึงให้หน่วยกู้ภัยค้นหาพบปลอกกระสุนลูกซองเบอร์ 12 อยู่ในป่ารกใต้ต้นปาล์มจำนวน 3 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้นผู้ต้องหาเดินกลับบ้านไปตามถนนสายวัดธัญญาราม -บ้านเกาะเรือโกรน ระยะทางประมาณ 2 กม. พอถึงบ้านซึ่งเป็นร้านค้าติดถนนสายเอเชีย 41 ได้นำปลอกกระสุนอีก 1 ปลอกไปฝังดินในกล่องโฟมโดยทำเป็นกระถางปลูกต้นไม้ห่างจากบ้านพักประมาณ 20 เมตร เป็นจุดสุดท้ายในการทำแผนประกอบรับคำสารภาพโดยน.ส.ทองทิพย์อายุ 40 ปี ภรรยาผู้ต้องหามียืนดูขณะทำแผนพร้อมทั้งโผโอบกอดร่ำให้ด้วยความเสียใจ
ด้านพ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ทั้งสองคนมีเรื่องบาดหมางกันมาหลายปี หลังจากเกิดเหตุคดีดังกล่าวได้เก็บรวบรวมวัตถุพยานในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายได้หลักฐานสำคัญคือก้นบุหรี่ที่คนร้ายสูบก่อนลงมือ กล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายได้ชัดเจน และหลักฐานอื่นๆเมื่อได้ข้อมูลหลักฐานชัดเจนจึงขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายวัชริทร์ ทองสกุล ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนผิดกฎหมายไว้ในครองครอบโดยไม่ได้รับอนุญาติฯ(อาวุธปืนไม่มีทะเบียน) หลังทำแผนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ นายวัชรินทร์ฯ ผู้ต้องหาอ้างว่า “มันยิงผมก่อนถึง 2 ครั้ง และเวลาผมไปฉีดยาเรียนที่ไหนยิงขู่ผมทันที ถ้าไม่เชื่อถามชาวบ้านได้เลยว่าเรื่อจริงหรือไม่ และเคยโทรแจ้งจับยาเสพติดด้วย”
Recommend News
MOST POPULAR
