วันที่ 19 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายตติรัฐ  รัตนเศรษฐ  ผู้ช่วยเลขารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลประศุก  อำเภออินทร์บุรี  จังหวัดสิงห์บุรี  เพื่อตรวจพื้นที่และรับทราบแนวทางการขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระเจ้ายา  ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลประศุกได้ทำเรื่องขออนุญาตกรมเจ้าท่าดำเนินการขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยาในรูปแบบ  “ต่างตอบแทน”  คือให้ผู้รับเหมาเข้ามาประมูลซื้อทรายในแม่น้ำเจ้าพระยาและดำเนินการขุดลอกเองภายในระยะความลึกและแนวแม่น้ำตามที่กรมเจ้าท่ากำหนด  ซึ่งก็มีนายศิริชัย  ศรีเหนี่ยง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี  นายสุรศักด์  เพ็งภาค  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลประศุก  พร้อมเจ้าหน้าที่และประชาชนร่วมให้การต้อนรับ 

หลังจากรับฟังการชี้แจงเรื่องการขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยาจากเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าแล้ว  ผู้ช่วยเลขารัฐมนตรีพร้อมคณะได้ลงพื้นที่บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาหมู่ที่ 6 ตำบลประศุก บริเวณที่จะทำการขุดลอกทรายออกจากแม่น้ำ  ซึ่งแม่น้ำมีลักษณะโค้ง  ทำให้มีทรายทับถมสูงฝั่งตะวันตกแม่น้ำ  ซึ่งกรมเจ้าท่าได้ประเมินจำนวนทรายที่ต้องขุกลอกมีจำนวน  78,514 ลูกบาตรเมตร  และกรมเจ้าท่าก็ได้อนุญาตให้องค์การบริหารส่วนตำบลประศุกดำเนินการได้ตามที่ขอแล้ว  ซึ่งในขั้นตอนต่อไปหลังจากที่กรมเจ้าท่าอนุญาตแล้ว ทางองค์การบริหารส่วนตำบลประศุก  ก็จะทำการประเมินราคาทรายและทำการเปิดประมูล  หากผู้รับเหมาที่ประมูลได้มีค่าใช้จ่ายในการขุดลอกน้อยกว่าราคาทรายที่ประเมิน  เงินที่เหลือก็จะนำเข้าเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป  

นอกจากนี้ ผู้ช่วยเลขารัฐมนตรีช่วยว่าราการคมนาคมและคณะยังได้เดินทางไปยัง แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเทศบาลเมืองสิงห์บุรี  และที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางมัญ   อำเภอเมืองสิงห์บุรี  เพื่อตรวจดูสภาพแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตื่นเขินสภาพเดียวกับที่ตำบลประศุก  ที่วัดสว่างอารมณ์ เทศบาลเมืองสิงห์บุรี และองค์การบริหารส่วนตำบลบางมัญ  กำลังจะดำเนินการขออนุญาตกรมเจ้าท่าทำการขุดลอกต่อไป

สำหรับข้อดีของการที่กรมเจ้าท่าอนุญาตให้ท้องถิ่นดำเนินโครงการขุดลอกแม่น้ำแบบต่างตอบแทน  ข้อดีเบื้องต้น คือ  รัฐไม้ต้องเสียงบประมาณเองและทรายที่ขุดออกไปยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง แทนที่จะขุดลอกแล้วทิ้งไว้ริมแม่น้ำไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย