จับสึก "พระเขมร" สวมบัตรประชาชนคนไทย หลังศาลไม่ให้ประกันตัว
20 ธ.ค. 2562, 20:07
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณีที่ พระจักรพันธ์ ไชยแก้ว พระลูกวัด วัดสังเม็ก หมู่ที่ 1 ต.สังเม็ก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาพบกับ พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และ พ.ต.ท.สังวร วันทะวี รอง ผกก.สอบสวน สภ.กันทรลักษ์ เจ้าหน้าที่ ตร.กองกำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อมอบตัวสู้คดี กรณีที่ถูกออกหมายจับของศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ที่ 046/2562 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 2562 เนื่องจากพระจักรพันธ์ ธัมมรักขิโต หรือจักรพันธ์ ไชยแก้ว ตกเป็นผู้ต้องหา 8 ข้อหาด้วยกัน เช่น เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ยื่นคำขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทยด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอมีบัตร ใช้หรือแสดงบัตรอันเกิดจากการยื่นคำขอมีบัตรโดยไม่ได้มีสัญชาติไทยด้วยแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นต้น ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. 62 ที่ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.กันทรลักษ์ เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า กรณีของ พระจักรพันธ์ ธัมมรักขิโต หรือจักรพันธ์ ไชยแก้ว ผู้ต้องหาคดีนี้ซึ่งเป็นพระต่างด้าว ถือหนังสือสุทธิพระภิกษุสามเณรประเทศกัมพูชา จำพรรษาอยู่วัดบ้านสังเม็ก อ.กันทรลักษ์ นั้น ขณะนี้ พระจักรพันธ์ ไชยแก้ว และนางเศียร ไชยแก้ว ที่อ้างว่าเป็นแม่ ได้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจหา DNA ได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะต้องรอผลการตรวจสอบ DNA เพื่อนำเอามาประกอบสำนวนคดี ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้นำตัว พระจักรพันธ์ ไชยแก้ว ไปยื่นคำร้องขอฝากขังที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ต่อมาผู้ต้องหาได้มอบให้ทนายความทำเรื่องประกันตัวเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาลชั้นต้น แต่ปรากฏว่า ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว และทนายผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์ขอประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ภาค 3 แต่ปรากฏว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว ดังนั้น พ.ต.ท.วีระจักร จรรยากรณ์ รอง สวส. สภ.กันทรลักษ์ และทีมพนักงานสอบสวนจึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปกราบนมัสการ พระครูวิสุทธิธ์ธรรมาภีร์ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอกันทรลักษ์ เพื่อทำการลาสิกขาให้ จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาเข้าเรือนจำจังหวัดกันทรลักษ์ต่อไป ส่วนประชาชนที่มีความศรัทธาผู้ต้องหาได้ติดตามมาให้กำลังใจจำนวนมากนั้น ได้รับฟังการอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ด้วยตนเองที่อ่านประกาศออกไมโครโฟนเพื่อให้รับทราบคำสั่งศาล ซึ่งกลุ่มผู้ที่ศรัทธาได้พากันเดินทางกลับไปภูมิลำเนาของตนเองแล้ว